Page 20 - ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
P. 20

History of Science                                       19



                     กับจารีตจิตวิญญาณ (spiritual tradition) (Mason, 1962, p. 11)
                           เนืองจำกประวัติศำสตร์วิทยำศำสตร์สนใจพัฒนำกำรทำงควำมคิดเป็น
                             ่
                                                          ่
                                                                              ่
                     ส�ำคัญ โดยเฉพำะเมือมนุษย์พยำยำมหำค�ำตอบเกียวกับธรรมชำติ จึงหลีกเลียง
                                    ่
                                                                  ่
                                    ้
                     ไม่ได้ทีหนังสือเล่มนีจะถือว่ำพัฒนำกำรของเทคโนโลยีเป็นเรืองรองลงไป เพรำะ
                          ่
                     กำรใช้ประโยชน์จำกเทคโนโลยีในหลำยโอกำสมิได้สะท้อนควำมคิดลุ่มลึกใน
                                                                     ่
                     เชิงวิทยำศำสตร์แต่อย่ำงใด ยกตัวอย่ำงเช่น มนุษย์รู้จักใช้ไฟเพือให้ควำมร้อน
                     ให้แสงสว่ำง หรือปรุงอำหำร ก่อนที่มนุษย์จะรู้ว่ำไฟคืออะไร ซึงปัจจุบันในทำง
                                                                    ่
                     เคมีได้แบ่งแยกสสำรออกเป็นสำมสถำนะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊ำซ แต่
                                ้
                     ไฟไม่เข้ำข่ำยทังสำมกรณีจึงระบุว่ำไฟเป็นสสำรประเภทพลำสมำ (plasma) หรือ
                     มนุษย์รู้จักปรำกฏกำรณ์ไฟฟ้ำและประยุกต์ใช้ก่อนจะรู้จักอิเล็กตรอน (electron)
                           ข้อสังเกตจำกตัวอย่ำงข้ำงต้นก็คือ มนุษย์สำมำรถใช้งำนเทคโนโลยีก่อน
                                                                         ่
                      ่
                                                                   ่
                     ทีจะสถำปนำควำมรู้เชิงทฤษฎีทำงวิทยำศำสตร์  ตัวอย่ำงเพิมเติมทีน�ำมำจำก
                     ประวัติศำสตร์ล้วนครอบคลุมข้อเท็จจริงดังกล่ำว เช่น มนุษย์ท�ำปฏิทินขึนใช้
                                                                             ้
                     และนับเดือนปีได้ทังๆ ทียังเชือว่ำโลกเป็นศูนย์กลำงของจักรวำล มนุษย์รู้จัก
                                    ้
                                            ่
                                        ่
                     หลอมโลหะมำใช้งำน ไม่ว่ำจะเป็นเหล็ก ทองแดง หรือส�ำริด โดยไม่มีทฤษฎี
                     เกียวกับโลหะเหล่ำนีหรือตำรำงธำตุ มนุษย์ยกย่องทองค�ำเป็นโลหะมีค่ำเพรำะ
                       ่
                                     ้
                     ทองค�ำไม่เป็นสนิม โดยไม่มีทฤษฎีมำรองรับว่ำเพรำะอะไรโมเลกุลของทองค�ำ
                     จึงท�ำปฏิกิริยำกับออกซิเจนในอำกำศยำกกว่ำโลหะอืนๆ  มนุษย์ท�ำภำชนะ
                                                               ่
                                                                         ่
                     ดินเผำได้โดยไม่ต้องอำศัยทฤษฎีมำรองรับว่ำกำรเผำดินเผำไปเปลียนแปลง
                     โครงสร้ำงของดินได้อย่ำงไร  ตัวอย่ำงเหล่ำนีล้วนแสดงให้เห็นว่ำ  กำรใช้
                                                         ้
                                                    ่
                     ประโยชน์จำกเทคโนโลยีตำมแนวทำงทีต้องกำรไม่จ�ำเป็นต้องมีควำมรู้เชิง
                                                        ่
                     ทฤษฎีวิทยำศำสตร์ด้วยซ�ำไป ในหลำยกรณีทีกล่ำวมำ กำรปรับปรุงใช้งำนได้
                                        ้
                     ส�ำเร็จบำงอย่ำงก็ไม่ได้สะท้อนควำมลุ่มลึกในองค์ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์อยู่ดี
                              ้
                            ่
                           สิงนีเป็นเหตุผลของค�ำถำมทีว่ำ เพรำะอะไรถึงมีข้อเสนอให้จ�ำแนก จารีต
                                                ่
                                                             ่
                     ช่างฝีมือ (craft tradition) หรือจารีตสายเทคนิคทีแฝงอยู่ในประวัติศำสตร์
                     วิทยำศำสตร์ออกมำให้ชัดเจน  เพรำะถึงแม้กิจกรรมเชิงช่ำงจะสะท้อนควำม
                                                                    ้
                     ก้ำวหน้ำของอำรยธรรมมนุษย์ก็จริง แต่ส่วนหนึงในกิจกรรมนีก็ไม่เข้ำถึงนิยำม
                                                         ่
                     ควำมเป็นวิทยำศำสตร์ เพรำะไม่ได้สะท้อนถึงควำมสงสัยใคร่รู้ (curiosity) ที ่
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25