Page 12 - รายวิชาภาษาไทย(พท31001)
P. 12

12 | ห น า



                                   
                                     
                       1.  ฟงและดูใหเขาใจเรื่อง  เมื่อฟงเรื่องใดก็ตามผูฟงจะตองตั้งใจฟงเรื่องนั้นใหเขาใจตลอดเรื่อง
                    
               ใหรูวาเนื้อเรื่องเปนอยางไร มีสาระสําคัญอะไรบาง พยายามทําความเขาใจรายละเอียดทั้งหมด
                  
                   
                       2.  วิเคราะหเรื่อง  จะตองพิจารณาวาเปนเรื่องประเภทใด  เปนขาว  บทความ เรื่องสั้น นิทาน
                                     ี
               นิยาย บทสนทนา สารคด ละคร และเปนรอยแกวหรือรอยกรอง เปนเรื่องจริงหรือแตงขึ้น  ตองวิเคราะห
               ลักษณะของตัวละคร และกลวิธในการเสนอสารของผูสงสารใหเขาใจ
                                                             
                                                                     
                                          ี
                                        ื
                                                                                            ิ
                       3.  วินจฉัยเรื่อง    คอการพิจารณาเรื่องที่ฟงวาเปนขอเท็จจริง    ความรูสึกความคดเห็นและผูส
                            ิ
               งสารหรือผูพูดผูแสดงมีเจตนาอยางไรในการพูดการแสดง  อาจจะมีเจตนาที่จะโนมนาวใจหรือแสดง
                                                                              
                                                        
                                                                                          
               ความคิดเห็น  เปนเรื่องที่มีเหตุมีผล  มีหลักฐานนาเชื่อถือหรือไมและมีคุณคา  มีประโยชนเพียงใด
                       สารที่ใหความรู  
                              
                       สารที่ใหความรบางครั้งก็เขาใจงาย แตบางครั้งที่เปนเรื่องสลับซับซอนก็จะเขาใจยาก ตองใชการ
                              
                                                       
                                    ู
                                    
               พินิจพิเคราะหอยางลึกซึ้ง ทั้งนี้ยอมขึ้นกับเรื่องที่เขาใจงายหรือเขาใจยาก  ผูรับมีพื้นฐานในเรื่องที่ฟงเพียง
                         
               ใด ถาเปนขาวหรือบทความเกี่ยวกับเกษตรกรผูมีอาชีพเกษตรยอมเขาใจงาย ถาเปนเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจนัก
                                                                                 ั
                                                                                              ู
               ธุรกิจก็จะไดเขาใจงายกวาผูมีอาชีพเกษตร  และผูพูดหรือผูสงสารก็มีสวนสําคญ  ถามีความรในเรื่องนั้น
                                                    
                         
                        ี
               เปนอยางดรูวิธีพูดนําเสนอผูฟงก็จะเขาใจไดงาย
                                         
                                                ู
                                                           
                                                           ู
                       ขอแนะนําในการฟงและดที่ใหความรโดยใชวิจารณญาณมีดังนี้                  1.
                                                                         ุ
                       เมื่อไดรับสารที่ใหความรูเรื่องใดตองพิจารณาวาเรื่องนั้นมีคณคาหรือมีประโยชนควรแกการใช
                               
               วิจารณญาณมากนอยเพียงใด
                                                                             ี
                                                                               
                       2.  ถาเรื่องที่ตองใชวิจารณญาณไมวาจะเปนขาว บทความ สารคด ขาว หรือความรูเรื่องใดก็ตาม
                                                             
                                                     
                                   
                                                            ี
                                                ั
                                          ็
                               ั้
                 
               ตองฟงดวยความตงใจจับประเดนสําคญใหได  ตองตความหรือพินิจพิจารณาวา ผูสงสารตองการสงสาร
                   
               ถึงผูรับคืออะไร  และตรวจสอบหรือเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ ที่ฟงรวมกันมาวาพิจารณาไดตรงกันหรือไม
               อยางไร    หากเห็นวาการฟงและดูของเราตางจากเพื่อน  ดอยกวาเพื่อน  จะไดปรับปรุงแกไขใหการฟง
               พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตอไป
                       3.  ฝกการแยกแยะขอเท็จจรง ขอคดเห็น เจตคตของผูพูดหรือแสดงที่มีตอเรื่องที่พูดหรือแสดง
                                                                ิ
                                                     ิ
                                               ิ
                                     
               และฝกพิจารณาตัดสินใจวาสารที่ฟงและดนั้นเชื่อถือไดหรือไม  และเชื่อถือไดมากนอยเพียงใด
                                                                                     
                                                   ู
                                                                                
                                                             
                    
                                                                                        
                       4.  ขณะที่ฟงควรบันทึกสาระสําคัญของเรื่อง  ตลอดทั้งประเด็นการอภิปรายไวเพื่อนําไปใช
                                                                                                      ิ
                       5.  ประเมินสารที่ใหความรูวา  มีความสําคัญมีคุณคาและประโยชนมากนอยเพียงใด  มีแงคด
                                         ี
                             
               อะไรบาง และผูสงสารมีกลวิธในการถายทอดที่ดีนาสนใจอยางไร
                                                                                                    ั
                                         ู
                       6.  นําขอคด  ความรและกลวิธีตางๆ  ที่ไดจากการฟงไปใช   ในการดาเนินชีวิตประจําวน
                                ิ
                                                                                     ํ
                                                                          
               การประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต  พัฒนาชุมชนและสังคมไดอยางเหมาะสม
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17