Page 13 - รายวิชาภาษาไทย(พท31001)
P. 13

ห น า  | 13









                       สารที่โนมนาวใจ


                       สารที่โนมนาวใจเปนสารที่เราพบเห็นประจําจากสื่อมวลชน  จากการบอกเลาจากปากหนึ่งไปสู
                                            
                           
               ปากหนึ่ง ซึ่งผูสงสารอาจจะมีจุดมุงหมายหลายอยางทั้งที่ดี และไมดี มีประโยชนหรือใหโทษ จุดมุงหมาย
                               ื
                                                    ิ
               ที่ใหประโยชนก็คอ  โนมนาวใจใหรักชาตบานเมือง  ใหใชจายอยางประหยัด ใหรักษาสิ่งแวดลอม ให
                                 ิ
                                            ิ
               รักษาสาธารณสมบัตและประพฤตแตสิ่งที่ดีงาม  ในทางตรงขามผูสงสารอาจจะมีจุดมุงหมายใหเกิดความ
                                                                      
                                                                                             ิ
                                                                                 ั
               เสียหาย  มุงหมายที่จะโฆษณาชวนเชื่อหรือปลุกปน ยุยงใหเกิดการแตกแยก ดงนั้นจึงตองมีวจารณญาณ
               คิดพิจารณาใหดีวาสารนั้นเปนไปในทางใด
                            
                                               
                                            
                       การใชวิจารณญาณสารโนมนาวใจ ควรปฏิบัตดังนี้
                                                             ิ
                       1.  สารนั้นเรียกรองความสนใจมากนอยเพียงใด  หรือสรางความเชื่อถือของผูพูดมากนอย
               เพียงใด
                                                                                   ู
                       2.  สารที่นํามาเสนอนั้น  สนองความตองการพื้นฐานของผูฟงและดอยางไรทําใหเกิดความ
               ปรารถนาหรือความวาวุนขึ้นในใจมากนอยเพียงใด
                                 
                                                        
                       3.  สารไดเสนอแนวทางที่สนองความตองการของผูฟงและดหรือมีสิ่งใดแสดงความเห็นวาหาก
                                
                                                                          ู
                                
               ผูฟงและดยอมรับขอเสนอนั้นแลวจะไดรับประโยชนอะไร
                                                            
                                                 
                        ู
                 
                                                                                                ิ
                                                                                     ิ
                       4.  สารที่นํามาเสนอนั้นเราใจใหเชื่อถือเกี่ยวกับสิ่งใด  และตองการใหคดหรือปฏิบัตอยางไร
                 
               ตอไป
                                             
                                                                 
                                                                  
                       5.  ภาษาที่ใชในการโนมนาวใจนั้นมีลักษณะทําใหผูฟงเกิดอารมณอยางไรบาง
                                          
                                                                              
                       สารที่จรรโลงใจ
                                                                    ํ
                       ความจรรโลงใจ  อาจไดจากเพลง ละคร ภาพยนตร คาประพันธ สุนทรพจน บทความบางชนิด
               คาปราศรย พระธรรมเทศนา โอวาท ฯลฯ เมื่อไดรับสารดงกลาวแลวจะเกิดความรสึกสบายใจ สุขใจ
                 ํ
                                                                  ั
                       ั
                                                                                      ู
               คลายเครียด เกิดจินตนาการ มองเห็นภาพและเกิดความซาบซึ้ง สารจรรโลงใจจะชวยยกระดับจิตใจมนุษย
                  
                                            
                                        
                                                                               ิ
               ใหสูงขึ้นประณีตขึ้น  ในการฝกใหมีวิจารณญาณในสารประเภทนี้ควรปฏิบัตดังนี้
                                                                    
                                  
                                 ู
                       1.  ฟงและดดวยความตั้งใจ  แตไมเครงเครียด ทําใจใหสบาย
                                                 
                                                       
                       2.  ทําความเขาใจในเนื้อหาที่สําคัญ  ใชจินตนาการไปตามจุดประสงคของสารนั้น
                                                  ู
                       3.  ตองพิจารณาวาสิ่งที่ฟงและดใหความจรรโลงในดานใด อยางไรและมากนอยเพียงใด  หาก
               เรื่องนั้นตองอาศัยเหตุผล ตองพิจารณาวาสมเหตุสมผลหรือไม
                                      
                       
                                                
                       4.  พิจารณาภาษาและการแสดง  เหมาะสมกับรูปแบบเนื้อหาและผูรับสารหรือไมเพียงใด
                                                                              
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18