Page 59 - รายวิชาภาษาไทย(พท31001)
P. 59
ห น า | 59
ขอควรคํานึงในการตีความ
ู
1. ศึกษาประวัติและพื้นฐานความรของผูเขียน
ี
2. ศึกษาสภาพสังคมในสมัยที่งานเขยนนั้นเกิดขึ้น วาเปนสังคมชนิดใด เปนประชาธิปไตยหรือ
เผด็จการเปนสังคมเกษตร พาณิชยหรืออุตสาหกรรม เปนสังคมที่เครงศาสนาหรือไม
3. อานหลายๆ ครั้ง และพิจารณาในรายละเอียด จะทําใหเห็นแนวทางเพมขึ้น
ิ่
4. ไมยึดถือสิ่งที่ตนตีความนั้นถูกตอง อาจมีผูอื่นเห็นแยงก็ได ไมควรยึดมั่นในกรณีที่ไมตรงกับ
ผูอื่นวาของเราถูกตองที่สุด
การอานขยายความ
การอานขยายความ คอ การอธิบายเพิ่มเติมใหละเอียดขึ้นภายหลังจากไดตีความแลว ซึ่งอาจใช
ื
วิธียกตัวอยางประกอบหรือมีการอางอิงเปรยบเทียบเนื้อความใหกวางขวางออกไปจนเปนที่เขาใจชัดเจน
ี
ยิ่งขึ้น
ตัวอยาง
ความโศกเกิดจากความรัก ความกลัวเกิดจากความรัก ผูที่ละความรักเสียไดก็ไมโศกไมกลัว
(พุทธภาษิต)
ั
ุ
ขอความนี้ใหขอคิดวา ความรักเปนตนเหตใหเกิดความโศก และความกลัวถาตดหรือละความรัก
ได ทั้งความโศก ความกลัวก็ไมมี
ขยายความ
เมื่อบุคคลมีความรักในสิ่งใดหรือคนใด เขาก็ตองการใหสิ่งนั้นคนนั้นคงอยูใหเขารักตลอดไป
มนุษยสวนมากกลัววาคนหรือสิ่งที่ตนรักจะแตกสลายหรือสูญสิ้นจากไป แตเมื่อถึงคราวทุกอยางยอม
ิ
ั
เปลี่ยนไปไมอาจคงอยูได ยอมมีการแตกทําลายสูญสลายไปตามสภาพ ถารูความจรงดงนี้และรูจักละ
ความรัก ความผูกพันนั้นเสีย เขาจะไมตองกลัวและไมตองโศกเศราเสียใจอีกตอไป
ี
การขยายความนี้ใชในกรณที่ขอความบางขอความ อาจมีใจความไมสมบูรณจึงตองมีการอธิบาย
ํ
หรือขยายความเพื่อใหเกิดความเขาใจยิ่งขึ้น การขยายความอาจขยายความเกี่ยวกับคาศัพทหรือการให
เหตุผลเพิ่มเติม เชน สํานวน สุภาษิต โคลง กลอนตางๆ เปนตน
การอานจับใจความหรือสรุปความ

