Page 142 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 142
99
พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘)
ั
ี
ี
ั
มาแล้ว ได้นักธรรมโทกนมาแล้ว ตัดสินใจเรียนบาลกันอกสก
๒-๓ ปี มันดีมาก
ี
ั
�
การท่เราจะมีกาลังใจเรียนบาลีกันได้น้น เราต้องนึกว่า
ภาษาบาลีเป็นภาษาของพระพุทธเจ้า เป็นภาษาพ่อของเรา
เราเป็นลูก ไม่รู้ภาษาพ่อ เราลองคิดดู ไม่รู้ภาษาพ่อแล้ว จะ
่
ื
ื
่
ู
ี
ี
่
พดกับพ่อร้เรองหรอ ภาษาบาลจดว่าเป็นภาษาทสาคญทสุด
ี
�
ู
ั
ั
ในพระพุทธศาสนาของเรา เพราะกิจกรรมทุกอย่างที่เราจะท�า
เน่องในกิจพระพุทธศาสนานี้ เราใช้ภาษาบาลีท้งน้น ไม่รู้เร่อง
ื
ั
ั
ื
รู้ราวเลย อยู่กันมาได้อย่างไร?
ี
ี
ตรงน้แหละเป็นจุดอ่อนของสถาบันสงฆ์ของเราท่สุด
เรามีวัด ๓๐,๐๐๐ กว่าวัด มีพระเป็นแสนๆ รูป แต่มีพระ
ี
ท่รู้ภาษาบาลี หรือพอรู้บ้างเพียงไม่ก่พันรูป เราลองคิดด ู
ี
มันเหมือนกับว่าพวกเราไม่รักพระพุทธองค์จริง มันเหมือน
ไม่รัก จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม เราต้องนึกว่า ภาษา
ศาสนาน้น จะรักษาศาสนาไว้ได้ แล้วใครจะเป็นคนรักษา
ั
ถ้าไม่ใช่พวกเรา จะไปเกณฑ์ให้ญาติโยมมาเรียน เขาก็ไม่มา
ี
ี
เรียนหรอก พวกเราน้แหละท่จะเรียนกัน มันก็เหมือนภาษา
ไทย ถ้าเมืองไทยไม่ใช้ภาษาไทยกัน จะเป็นประเทศไทยอยู่
ได้ไหม? แล้วถ้าศาสนาพุทธของเราไม่ใช้ภาษาบาลี แล้วจะ
เป็นพุทธอยู่ได้ไหม มันเป็นไม่ได้

