Page 1 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 1
1
บทที่ 6
สงครามมหาเอเชียบูรพา
สาเหตุของการสงคราม
์
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ไดเปิดฉากขึ้นโดยเยอรมันบุกโปแลนด ในต้นเดือน ก.ย. 2483 ประเทศไทยได ้
้
ประกาศตนเป็นกลางอย่างเคร่งครัดตลอดมา แม้เหตุการณทางภาคตะวันออกไกลจะเพิ่มความตึงเครียดขึ้นมา
์
ตามลำดับ เพราะญี่ปุ่นซึ่งเป็นภาคีของฝ่ายแกน (เยอรมัน อิตาลี และ ญี่ปุ่น) มีแผนความคิดที่จะครองเอเชย
ี
ไทยก็คงยืนหยัดประกาศความเป็นกลางอยู่เช่นเดิม
ต่อมาท่าทีของญี่ปุ่นได้แสดงออกเด่นชัดในการคุกคามดานเอเชีย โดยส่งกำลังทหารข้ามมาในอินโดจน
ี
้
ของฝรั่งเศส ไทยก็คงประกาศตัวเป็นกลางอย่างเดิม ยิ่งกว่านี้ทางการทหารได้ตระหนักแน่ถึงภัยคุกคามจาก
ญี่ปุ่น จึงได้สั่งให้หน่วยทหารเตรียมรับสถานการณ์ที่จะต้องเผชิญอย่างกวดขัน
สถานะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นอยู่เป็นอันมาก ทั้งนี้เพราะ
ั
้
่
การเข้าตีพม่าและสิงคโปร์ของญี่ปุ่น จำเป็นอย่างยิ่งที่ตองส่งกำลังทางภาคพื้นดินผานประเทศไทย ฉะนั้นในทนท
ี
ิ
ที่ญี่ปุ่นเข้าจู่โจม โจมตี เพอรล์ ฮาร์เบอร์ และฟิลปปินส์ใน 8 ธ.ค. 2484 ญี่ปุ่นก็เข้าโจมตีประเทศไทยพร้อมกัน
โดยยกพลขึ้นบก ณ จุดสำคัญหลายแห่งและทางภาคใต้ของประเทศไทยอาทิ อรัญประเทศ ประจวบคีรีขันธ์
้
ื
ู้
บางปู สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี รัฐบาลไทยไดส่งคำขอความช่วยเหลอไปยังผบัญชาการ
้
สูงสุดภาคตะวันออกไกลของอังกฤษ ไดรับคำตอบว่าให้ชวยตนเองไปก่อนเพราะขณะนั้นสภาพของอังกฤษอยู่
่
้
ในภาวะขับขัน เป็นอันว่าประเทศไทยตองต่อสู้กับขาศึกซึ่งมีกำลังมากกว่าอย่างโดดเดี่ยว ทหารไทยทางภาคใต ้
้
ต่อสู้อย่างองอาจกล้าหาญทั้ง ๆ ที่มีกำลังน้อยกว่าและอาวุธก็ด้อยกว่าทั้งคุณภาพและปริมาณ รัฐบาลไทยใน
์
ขณะนั้นมองไม่เห็นทางที่จะนำประเทศไทยให้พ้นจากความหายนะ จึงได้แก้ไขเหตุการณเฉพาะหน้าโดยเปิด
้
่
ื้
เจรจากับญี่ปุ่น และสั่งให้ทหารหยุดยิงในวันต่อมาการเจรจาไดมีการตอรองยืดเยอไปจนกระทั่ง 24 ธ.ค. 2484
ประเทศไทยจำต้องทำสัญญาร่วมรบกับญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงร่วมรบกับญี่ปุ่นด้วยความจำใจ
การเตรียมการ
แม้ว่าประเทศไทยจะตนตัวในด้านการทหารมาเป็นเวลานาน โดยพยายามปรับปรุงกองทัพให้
ื่
เจริญก้าวหน้าทันสมัยเป็นเวลาหลายสิบปีก็ตาม แต่เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเล็กและเป็นประเทศ
ุ
เกษตรกรรม ฉะนั้นอาวุธยุทโธปกรณ์จึงไม่อยู่ในระดับที่พึงพอใจ อย่างไรก็ดีกองทัพไทยได้พยายามสด
้
ความสามารถเท่าที่จะทำได โดยสั่งซื้อปืนใหญ่ ปืนกล รถถัง เครื่องบิน และเรือรบจากประเทศต่าง ๆ
โดยเฉพาะจากประเทศทางภาคพื้นยุโรป ส่วนอาวุธกลขนาดเล็กและกระสุน ประเทศไทยก็พยายามผลิตเอง แต ่
ผลที่ได้รับปริมาณน้อยมาก
ิ
กำลังทางบก ในยามปกต ได้แบ่งเป็น 5 ภาค คือ มณฑลทหารบกที่ 1 ภาคกลาง มณฑลทหารบกที่ 2 ภาค
ตะวันออก, มณฑลทหารบกที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มณฑลทหารบกที่ 4 ภาคเหนือ และ
มณฑลทหารบกที่ 5 ภาคใต้ โดยเฉพาะมณฑลทหารบกที่ 1, 2, 3 และ 4 ในยามสงครามได้แปรสภาพ
เป็นกำลังรบ โดยจัดกำลังเป็นกองพล 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ

