Page 29 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 29
29
้
ของเขา แมคอาร์เธอร์กล่าวว่า “ในสงครามไม่มีอะไรที่จะมาแทนชัยชนะได” ในจดหมายที่เขาเขียนถึง
์
(20 มีนาคม 1951) ผู้แทนราษฎร โจเซฟ ดับเบิลยู มาร์ติน (ผู้แทนแมสซาซูเสทท) ซึ่งมาร์ตินได้เปิดเผยตอ
่
่
้
ี่
ี
สาธารณะโดยทันท แมคอาร์เธอร์ไม่ต้องการทจะใชระเบิดปรมาณูหรือบุกแผ่นดินใหญ่จีน เขาต้องการแตเพียง
ทำลายฐานบินในแมนจเรียทเป็นกระดานกระโดดที่รุกรานเกาหล ด้วยเครื่องบินทิ้งระเบดธรรมดาเขาเรียกร้อง
ี่
ี
ู
ิ
ิ
ให้ใช้ทหารจีนคณะชาต และให้เจียงไคเช็ค (Chiang Kai Shek) บุกผืนแผ่นดินใหญ่จนเขาเชื่อว่ารัสเซียคงไม่กล้า
เสี่ยงพอที่จะช่วยจีนแดงเป็นแน่ ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สหรัฐจะต้องเผชิญหน้ากับ เคลมลน
ิ
ี
์
โดยมิได้ปรึกษาวอชิงตัน เขาเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารจีนคอมมิวนิสตในเกาหลยอมแพ้ (25 มีนาคม 1951)
และกล่าวเป็นนัยว่า การโจมตีทางอากาศและทางเรือ อาจจะกระทำต่อจีนคอมมิวนิสต ถ้าการรบยังดำเนิน
์
ต่อไป
สำหรับทรูแมนแล้วอาจจะกระทำต่อจีนคอมมิวนิสต์ ถ้าการรบยังดำเนินต่อไป ท้าทายอำนาจของ
ประธานาธิบดีและคัดค้านนโยบายของรัฐ สหรัฐซึ่งฟังเสียงโลกเสรีและเกรงกลัวอำนาจระเบิดปรมาณูของ
รัสเซีย จึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะปลดปล่อยเกาหลีทั้งหมด เพียงแต่รักษาสถานภาพของเกาหลีใตไว้เท่านั้น
้
ดังนั้น แมคอาร์เธอร์ต้องไป การปลดปล่อยอย่างกระทันหันโดยที่ท่านนายพลทราบจากวิทยุกระจายเสียง ทำให้คน
้
ั
จำนวนมากไม่พอใจ แมคอาร์เธอร์เดินทางกลบสหรัฐด้วยการตอนรับในฐานะวีรบุรุษ และได้รับเชิญให้ปราศรัย
้
ในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา การสอบสวนของวุฒิสภาในเวลาต่อมา (พฤษภาคม ถึงมิถุนายน 1951) ไดเปิดเผย
ประเด็นสำคัญของนโยบายให้ประชาชนทราบทั้งหมดผลของการสอบสวนยังหาข้อยุติไม่ได้ อย่างไรก็ตาม
โดยทั่วไปแล้วนโยบายของสหรัฐแข็งกร้าวขึ้น
วันที่ 12-21 เมษายน 1951 กองทัพสหประชาชาติรุกต่อไปเมื่อเห็นว่าคอมมิวนิสต์เตรียมรุกตอบโต ้
เพื่อสกัดกั้นการบุกที่ “สามเหลี่ยมเหล็ก” นายพลแวนฟลีทรุกต่อไป ในระหว่างวันที่ 22 เม.ย. ถึง 1 พ.ค.1951
คอมมิวนิสต์เริ่มรุกขั้นที่หนึ่ง

