Page 25 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 25

25




                                                                                                          ้
                  เมืองเบียงกังในวันที่ 13 มิ.ย. 1951 หลังจากที่กำลังทั้งสองหน่วยได้ออกทำการลาดตระเวนอย่างคร่าว ๆ  แลวก็
                                     ั
                                                                                             ี่
                  ถอนตัวกลับในแนวของสมพันธมิตร ดังนั้นข้าศึกจึงสามารถยึดเมืองยองแกงกลบคืนได้ เมื่อวันท 17 มิ.ย. 1951
                                                                               ั
                                                                          ี่
                         กองทัพน้อยท 9 ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกองทัพน้อยท 1 รุกคืบหน้าไปอย่างช้า ๆ ภูมิประเทศ
                                     ี่
                                                                                                         ้
                  อันทุรกันดารทางตะวันตกอ่างเก็บน้ำ ทำให้อำนาจการยิงและความคล่องตัวลดน้อยลงไปทหารตองการใชการ
                                                                                                 ้
                  เดินทางด้วยเท้าเป็นหลักค่อยๆรุกคืบหน้าเข้าสู่แนวต้านทานของข้าศึกทางใต้เมืองกุมซอง (Kumchong)
                  ทีละขั้นตามลำดับ
                         ทางด้านตะวันออกของอ่างเก็บน้ำ กองทัพน้อยท 10 สามารถยึดเมืองแยงกู (Yanggu) ได้เมื่อวันท
                                                                                                             ี่
                                                                   ี่
                  2 มิ.ย. 1950 และเข้าตีฝ่าแนวต้านทานอันเข้มแข็งของทหารเกาหลีเหนือสองกองพันไปได้ช้า ๆ ข้าศึกใช้ปืน

                                                   ิ
                  ใหญ่ เครื่องยิงระเบิด และอาวุธอัตโนมัต ทำการยิงจากสันเขาอย่างรุนแรง เพื่อยับยั้งการเข้าตีของสมพันธมิตร
                                                                                                    ั
                        ี่
                  ในวันท 10 มิ.ย. 1950 จึงสามารถรุกเข้าไปถึงขอบทางด้านใต้ของ “Punch Bow”
                                                                      ี่
                         ถัดไปทางตะวันออกในเขตปฏิบัติการของกองทัพน้อยท 9 กองทัพน้อยเกาหลีใต้ที่สามารถลบส่วนยื่นท ี่
                  ฝ่ายข้าศึกสร้างไว้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนั้นกองพลเกาหลีใต้ซึ่งปฏิบัติอยู่บริการฝั่งตะวันออก ได้ทำการเข้าต ี
                                                                                                     ้
                                                                                                             ี่
                  และพบกับการต้านทานที่มีความแข็งแกร่งพอประมาณ ที่สุดก็สามารถยึดเมืองโซโด (Sodo) ไว้ได เมื่อวันท
                  7 มิ.ย. 1951
                                              ี่
                         ผลการยุทธของกองพลท 8 นับแต่กลางเดือน มิถุนายน จนถึงเริ่มเจรจาพักรบ ได้ผลคืบหน้าเล็กน้อย
                  เท่านั้น การปฏิบัติการส่วนใหญ่เข้าตีโดยจำกัดที่หมาย แต่ข้าศึกก็ต้านทานอย่างทรหด การปฏิบัติซึ่งนับว่าได้ผล
                                                         ี่
                  อย่างจริงจังนั้น อยู่ทางด้านของกองทัพน้อยท 1 ซึ่งในตอนต้นเดือน มิถุนายน ในบริเวณนั้นหน่วยรบพิเศษ
                  รถถังทหารราบ ประสบผลสำเร็จในการกวาดล้างและยึดพื้นที่ที่สำคัญของข้าศึกใต้เมืองบองยาง (Bongyang)

                                               ้
                  ที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมเหล็ก” ไว้ได การสูญเสียพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ข้าศึกขาดแหล่งสะสมกำลังรบ
                         วันท 12-21 เมษายน 1951 กองทัพสหประชาชาติรุกต่อไป เมื่อเห็นว่าคอมมิวนิสต์เตรียมรุกตอบโต ้
                             ี่
                  เพื่อสกัดกั้นการบุกท “สามเหลี่ยมเหล็ก” นายพลแวนฟลีท รุกต่อไป ในระหว่างวันท 22 เม.ย. ถึง 1 พ.ค.1951
                                   ี่
                                                                                       ี่
                  คอมมิวนิสต์เริ่มบุกโจมตีกองทัพน้อยท 1 ทางเหนือของโซล อย่างหนักหน่วง การถอยอย่างรวดเร็วของกองพล
                                                 ี่
                                                                                                           ี่
                  ท 1 เกาหลีใต ทำให้กองพลน้อยท 29 ของอังกฤษ ต้องเปิดโล่งทางปีกขวา กองพันทหารราบท 1
                   ี่
                               ้
                                                  ี่
                  กรมกลอสเตอร์เซอร์ (Gloucestershire Reglment) ถูกตัดขาดหลังจากต่อสู้อย่างห้าวหาญในการป้องกันเนิน
                                                                                                     ุ
                                                     ้
                  เขาก็พยายามตีฝ่าขึ้นไปทางเหนือรอดมาไดเพียง 40 คน นอกนั้นถูกฆ่าตายหรือถูกจับเป็นเชลย ในที่สดการบุก
                  ของคอมมิวนิสต์ก็ล้าลงจนหยุด (30 เม.ย.) ถูกทหารสหประชาชาติระดมยิงด้วยปืนใหญ่อย่างหนักจนเสยทหาร
                                                                                                      ี
                  ไปประมาณ 70,000 คน กองทัพท 8 เสียทหารไป 7,000 คน
                                              ี่
                                       ี่
                         ในระหว่างวันท 22-23 พฤษภาคม 1951 สหประชาชาติจำกัดการโจมตีทางซ้ายสุด ตั้งมั่นท       ี่
                  แม่น้ำอิมจิม (Imjim) ทางเหนือของมุนซาน แนวหน้าของสหประชาชาติทั้งแนวเคลื่อนขึ้นทางเหนือ

                                                              ุ
                  กองพลเมืองหลวงและกองพลท 2 เกาหลีใต้ทางขวาสดบุกอย่างรวดเร็วไปทางฝั่งตะวันออก โดยมีการต้านทาน
                                            ี่
                  เพียงเล็กน้อยจนถึงคานซอง การบุกค่อนข้างช้าลงในตอนกลาง แต่เร่งขึ้นเมื่อสิ้นเดือน นายพลแวนฟลีทจึงสั่งให้
                  หยุดเพราะคณะเสนาธิการผสม ไม่อนุมัติให้บุกต่อไป รัฐบาลสหรัฐเกรงการคุกคามของโซเวียตและไม่ตองการ
                                                                                                       ้
                                                           ี่
                  ให้โลกเสรีตื่นตระหนกต่อผลที่ตามมา ตั้งแต่วันท 1-15 มิ.ย. 1951 กองทัพสหประชาชาติจึงรวมกำลังตั้งเป็น
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30