Page 28 - ประวัติศาสตร์การสงคราม บทที่ 6-9
P. 28
28
ปูซานหนึ่งกองพลน้อย) กองพลทหารราบที่ 7 เป็นกองพลสุดท้ายที่ประจำอยู่ในญี่ปุ่น ใช้ทหารเกาเหลีที่ส่งไป
ฝึกอย่างเร่งรีบในญี่ปุ่น บรรจุในบางหน้าที่จำนวน 5,000 คน ความสำเร็จที่ได้รับขึ้นอยู่กับ
(ก) ความสามารถของกองทัพเรือ ในการลำเลียงทหารทางน้ำ
ี่
(ข) ความสามารถของกองทัพท 8 ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลวอล์เกอร์ ที่สามารถตรึง
การบุกของข้าศึกไว้ที่ปริมณฑลปูซาน จนกว่าการช่วยเหลือจะมาถึง
ี
ั
ุ
(ค) จังหวะเวลาที่เหมาะสมที่สดในการโจมต (ความแตกต่างของระดบน้ำ 30 ฟุต) ทำให้สามารถ
ใช้ปฏิบัติการยกพลขึ้นบกได้เพียง 6 ชั่วโมง ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง)
กองกำลังสหประชาชาตในเกาหลี ต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างร้ายแรง แม้ว่าความเสียหายจะไม่
ิ
รุนแรงนักเนื่องจากการต่อต้านอย่างเข้มแข็งและอย่างฉลาด แมคอาร์เธอร์ก็ถูกวิจารณ์ว่า ทำการบุกในสองเขต
ที่ขึ้นแก่กันในแนวรบเดียวและขาดมาตรการรักษาความมั่นคงททำให้ถูกโจมตีโดยไม่ทันรู้ตว ฝายสนับสนุนกับ
ี่
่
ั
เขาแย้งว่าเนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาทำให้การสนับสนุนกันเป็นไปไม่ได้ระหว่างกองทัพที่ 8 และ
กองทัพน้อยเอ็กซ์ และกล่าวตำหนิสหประชาชาติและคณะเสนาธิการผสมที่มีคำสั่งห้ามการตรวจการณ
์
ทางอากาศเหนือแม่น้ำยาลูก่อนที่จีนจะบุก ปัญหาที่เพิ่มความยากลำบากให้แมคอาร์เธอร์ก็คือ การที่เขาไม่ได ้
รับอนุมัตโดยทันที ในการทิ้งระเบิดสะพานถ่ายสัมภาระ จากโซเวียตมายังเกาหลีเหนืออย่างเสรีเป็นเวลานาน
ิ
มาแล้วในที่สุดก็ได้รับอนุมัติให้ทำการทิ้งระเบิดสะพานต่าง ๆ ทางตอนใต้ของแม่น้ำยาลู นับว่าเสี่ยงอันตราย
ู้
เป็นอันมาก และได้ผลน้อย เครื่องบินจะต้องบินขนานไปกับแม่น้ำ เสี่ยงต่อการถูกยิงจากปืนต่อสอากาศยานใน
แมนจูเรียและจากเครื่องบินสกัดกั้นของคอมมิวนิสต์ การจราจรสะพานคอมมิวนิสต์ถูกขัดจังหวะเพียงเล็กน้อย
เท่านั้น
ดูเหมือนว่าการตกลงใจรุกของแมคอาร์เธอร์เป็นการถูกต้องในตอนแรก และคณะเสนาธิการผสมก็เหน
็
พ้องด้วย แต่วิธีการอาจถูกวิจารณ์ได้ คณะเสนาธิการผสมได้รับการตำหนิมากที่อนุมัติให้บุก แต่ไม่อนุมัติให้ทำการ
บินตรวจการณ์ก่อนการบุก แมคอาร์เธอร์คาดว่า ถ้าจีนบุกจริง เขาคงได้รับอนุมัติให้ปฏิบัติการทางอากาศเลย
พรมแดนขึ้นไปและทำลายแหล่งโจมตีของข้าศึกจนถึงรัง แต่คณะเสนาธิการผสมก็ไม่ตั้งใจที่จะอนุมัติถึงขนาด
นั้น ในที่สุดมาตรการการรักษาความมั่นคงของท้องถิ่นจึงอ่อนไป ก่อนและหลังการรุกของกองทัพที่ 8 ในเรื่องนี้
ทั้ง แมคอาร์เธอร์และ วอล์เกอร์ควรได้รับการตำหนิ
สิ่งสำคัญที่สุดของบทเรียนที่ได้รับจากการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ก็คือ ทหารสหประชาชาติควรที่ได้เรียนรู้ใหม่
เกี่ยวกับการยิงและการเคลื่อนย้ายทางเท้า เมื่อถนนทหารอาศัยการสนับสนุนจากรถถัง ปืนใหญ่สนาม หรือ
อากาศยาน ส่วนทหารจีนคอมมิวนิสต์มีอาวุธเบาสามารถโจมตีโดยไม่ทันรู้ตัว หลบซ่อนตามภูมิประเทศทสง ๆ
ู
ี่
ต่ำ ๆ เพื่อชดเชยกับการขาดกำลังยิงที่รุนแรง จีนเคลื่อนพลและโจมตีในเวลากลางคืนพลางและซุ่มในเวลา
้
่
็
กลางวัน การโจมตีตรงแนวหน้าใช้กำลังเพียงเลกน้อย แต่การทะลุทะลวงลกมากการปะทะแตละครั้งริเริ่มดวย
ึ
กองกำลังขนาดเล็ก เป็นสงครามของผู้บังคับหมวดเท่านั้น สหประชาชาติไม่สามารถที่จะใช้อำนาจการยิงท ี่
เหนือกว่าได้เต็มที่เลยสักครั้งเดียว
ประธานาธิบดีได้ปฏิบัติตามอำนาจในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด แมคอาร์เธอร์ไม่เห็นด้วยกับ
ี
ี่
ิ
นโยบายการจำกัดสงครามในคาบสมุทรเกาหล และไม่พยายามทจะระงับความไม่พอใจในการจำกัดปฏิบัตการ

