Page 126 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 126
124
นายพลวอล์เกอร์ พิจารณาเห็นว่าเมือ่ เตกตู กอยู่ในสภาพอันตรายจึงไดส้ ่งกรมผสมท่ี 27 และ 23 ซึ่งเป็นกำลัง
หนุนของกองทพั ไปช่วยหนนุ กองพลเกาหลีใต้ท่ี 1 ในพ้นื ท่ีน้นั ใน 18 สงิ หาคม 1950 จึงเกดิ การรบอย่างดุเดือด
ชิงพื้นที่กลับไปกลับมาทางเหนือและทางใต้ ตามถนนบนที่ราบลุ่มจากซอย (Soi) ไปยังเตเบ (Taby) ในที่สุด
ขา้ ศึกกต็ ้องหยดุ ชะงกั ลง
การเข้าตีของเกาหลีเหนือที่กระทำในระยะนี้ ปรากฏว่ามีกำลงั ไม่พอท่ีจะทำการขยายผลการเข้าตีแต่
ละครัง้ กระทำไม่เกินสามวัน ทั้งนี้เพราะการตดิ ต่อส่อื สารและการส่งกำลงั บำรุงไม่สามารถจะสนับสนุนได้เกินกว่า
นน้ั ความรุนแรงสุดยอดของการเข้าตีมักจะเปน็ วันที่สองเสมอ ต่อมาในวนั ท่ีสามการเขา้ ตีก็เพลามือลง เมื่อการ
เข้าตีของระยะนี้ไดส้ ิ้นสุดลงแล้วจากการลาดตระเวนทั้งทางอากาศและทางภาคพืน้ ดิน ปรากฏชัดว่าข้าศึกได้
พยายามทกุ วิถีทางทจี่ ะรวบรวมกำลงั เพ่อื จะปดิ ฉากการเข้าตอี ย่างขนานใหญใ่ นโอกาสตอ่ ไป
ระยะที่สอง (27 สิงหาคม 1950 ถึง 15 กันยายน 1950) ข้าศึกเข้าตีอย่างรุนแรงเกือบโดยรอบแนว
ป้องกันปรากฏชัดว่ายุทธศาสตร์ของจอมพล ชอย (Choi) นั้นมุ่งที่จะมิให้นายพลวอล์เกอร์ โยกย้ายกำลังหนุน
จากด้านหนงึ่ ไปชว่ ยอีกดา้ นหน่งึ ดงั เชน่ ท่ีเคยปฏบิ ัติมาในระยะแรก
เกาหลีเหนือเปิดฉากการรุกด้วยการเขา้ ตีรอบเมอื งโปแฮง เมื่อ 26 สิงหาคม 1950 เนื่องจากข้าศึกมี
กำลังเหนือกว่ากองทัพน้อยเกาหลีใต้ที่ 1 ซึ่งเป็นฝ่ายต้านทาน จึงจำเป็นต้องส่งกำลังหนุนเข้าช่วยโดยด่วน
ตอ่ มาใน 31 สงิ หาคม 1950 เวลา 2400 น. ข้าศึกใช้กำลงั 6 กองพล รวมกับรถถงั อกี 2 - 3 กรม เปิดการเข้าตี
หลักตลอดแนวด้านตะวันตกคิดเป็นแนวยาวประมาณ 45 ไมล์ ซึ่งมีกำลังของกองพลที่ 2 และ 45 ยึดอยู่
ด้านของกองพลที่ 25 มีการต่อสู้อย่างทรหด ข้าศึกหยุดชะงักลงหลังจากยึดพื้นที่ไดม้ ากโข อย่างไรก็ดีภายใน
5 กันยายน 1950 กองพลนี้สามารถผลักดันข้าศึกให้กลับไป แล้วเข้ายึดแนวเดิมไว้ได้ในด้านของกองพลที่ 2
ต้องต่อสู้กับข้าศึกอย่างทรหด ข้าศึกสามารถเจาะแนวป้องกันข้ามแม่น้ำแนคตองเข้ามาไดถ้ ึง 17 แห่งด้วยกนั
และยึดพื้นทแ่ี ละลกึ เขา้ ไปเป็นระยะ 4-6 ไมล์ ดว้ ยความชว่ ยเหลือของกองหนนุ และกองพลน้อยนาวกิ โยธนิ ท่ี 1
ฝ่ายสหรัฐจึงสามารถลงหัวสะพานต่างๆ ของข้าศึกที่กล่าวเป็นผลสำเร็จภายใน 1 สัปดาห์ ทางด้านเหนือเตกู
ระหว่าง 3-10 กนั ยายน 1950 การรบคงดำเนินไปอยา่ งดุเดือดเกาหลเี หนอื สามารถเจาะแนวเขา้ มาได้ประมาณ
6,000-8,000 หลา ตรงแนวป้องกันของกองพลทหารม้าท่ี 1 และกองพลเกาหลใี ต้ อยา่ งไรกด็ ี ฝา่ ยเรากย็ ังรกั ษา
เมืองเตกไู ว้ได้
แมก้ องทพั ที่ 8 จะสามารถรักษาสถานการณอ์ ันลอ่ แหลม ทบ่ี ริเวณหัวหาดที่กล่าวน้ี ให้ผ่านพ้นไปได้ก็
ตามการยทุ ธโดยทว่ั ๆ ไปก็คงดำเนนิ ไปด้วยความหนกั หนว่ งตลอดแนวการยุทธท่ีดำเนนิ ไปเป็นเวลาหกสัปดาห์
นนั้ ฝ่ายปอ้ งกนั ได้ใชเ้ ส้นทางคมนาคมภายในและความคลอ่ งแคล่วในการเคลอ่ื นทต่ี อ่ สูก้ บั กำลังทเี่ หนือกว่าฝ่าย
รุกรานไม่มีโอกาสท่จี ะรวบรวมพลังการส่งกำลังบำรุง เพ่ือสนบั สนุนในการขยายผล เมื่อเจาะเข้าไปไดแ้ ล้วแม้แต่
ครัง้ เดียว
นับแต่เกดิ สงครามในเกาหลีเป็นต้นมา กำลังทางอากาศของสหประชาชาติได้ออกปฏิบัติการ 28,000
ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการช่วยสนับสนุนการยุทธทางภาคพื้นดิน การโจมตีทิ้งระเบิดเพื่อขัดขวางการปฏิบัติของ
ข้าศกึ ก็นบั วา่ ได้ผลกล่าวคอื เกาหลเี หนอื ไมส่ ามารถปฏิบัติการเปน็ หน่วยใหญ่ได้จนกระท่ังปลายเดือนสิงหาคม
นอกจากนัน้ ยงั ไดท้ ำลายท่ีหมายทางยุทธศาสตรเ์ ปน็ ผลสำเร็จหลายแหง่

