Page 130 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 130
128
นายพลวอล์เกอร์ จึงตกลงใจใหก้ ำลงั ส่วนท่ีถอนตัวและสงั่ ให้ที่ม่ันทางด้านกลาง ซงึ่ มีลักษณะเป็นถุงย่ืนออกไป
ถอนตัวมายดึ ตามแนวแมน่ ำ้ ซองซอนดว้ ย
ในด้านของกองทัพนอ้ ยท่ี 10 ข้าศกึ ตา้ นทานอย่างเข้มแข็งมีเฉพาะบริเวณอย่างเก็บน้ำโซซิน (Chosin)
และฟูเซน (Fusen) เท่านั้น กำลังของกองพลที่ 7 ซึ่งสังกัดในกองทัพน้อยที่ 10 เริ่มขึ้นบกที่เมือง ไอวอน
(Iwon) เมื่อ 20 ตุลาคม แล้วรีบเคลื่อนท่ีไปยงั เมืองปุงซาน (Pungsan) เข้าตีข้าศึกซึ่งกระจัดกระจายกันอยูใ่ น
บริเวณนั้น และใน 20 พฤศจิกายน กำลังส่วนนี้ได้รุกข้ามพรมแดนแมนจูเรียเข้าไปยังเมืองฮิเยซานจิน
(Hyesanjin) ซึ่งสภาพอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ ภายในไม่กี่วัน กองพลที่ 7 ก็เข้ารับผิดชอบในกว้าง
ด้านหน้าจากเมอื งยซี านซิน ไปถึงตะวันออกอ่างเกบ็ โซซิน (Chosin )
เนื่องจากตั้งแต่ 15 กันยายน 1950 ถึง 24 พฤศจิกายน 1950 หน้าที่ของกำลังทางอากาศที่ให้
สนับสนนุ อย่างใกลช้ ิดทางพน้ื ดินได้ลดนอ้ ยลง กำลงั ทางอากาศจงึ เปล่ยี นจากหนา้ ทีเ่ ดมิ มาทำการโจมตีขัดขวาง
การเคลื่อนทีข่ องข้าศึกเพียงในเดอื นพฤศจกิ ายนเดือนเดียวกำลังทางอากาศสามารถทำลาย รถพ่วงของข้าศกึ
650 คัน หัวรถจักร 78 คัน รถยนต์กวา่ 1,800 คัน และสะพานมากกวา่ 70 สะพาน ในการขัดขวางการจัดตัง้
กำลังรบของข้าศึกนั้น นับว่าได้ผล เพราะว่าเส้นทางคมนาคมที่มาจากแมนจูเรียนั้น ถูกโจมตีจนใช้การไม่ได้
และการลำเลียงขนส่ง ทำได้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น การกำจัดเขตไม่ให้กำลังทางทหารอากาศของ
สหประชาชาติบินล้ำเข้าไปในดินแดนแมนจูเรียนั้น นับว่าเป็นการเสียหายอยา่ งใหญ่หลวง เพราะจะทำให้การ
รุกเข้าหาสะพานข้ามแม่น้ำยาลูไม่สะดวก และเป็นการกำจัดการปฏิบัติการของเครื่องบินขับไล่ ที่ทำการ
คุ้มครองเครื่องบินทิ้งระเบิด มิให้สามารถตรวจตราล้ำเข้าไปในดินแดนฝั่งเหนือ ยิ่งกว่านั้นกลับได้ประโยชน์
อย่างมากมายแก่ฝ่ายข้าศึกกล่าวคือ เปิดโอกาสให้ข้าศึกรวบรวมกำลังทางอากาศได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่
ดังกล่าว และกำลังทางอากาศของข้าศึกยังสามารถฉวยโอกาสบินข้ามเขตเข้ามาทำลายฝ่ายเรา และบินหนี
กลับไปในดินแดนแมนจูเรียอย่างปลอดภยั ด้วย
นับต้งั แตต่ ้นมาจนถึง 1 พฤศจิกายน เครอื่ งบินของสหประชาชาตไิ ด้สรู้ บกบั เครอื่ งบินเกาหลีเหนือ ซึ่ง
เป็นชนิดที่ล้าสมัยทั้งสิ้น ดังนั้น ฝ่ายสหประชาชาติได้เสียเครื่องบินไปเพียง 8 เครื่อง ส่วนข้าศึกนั้นเสียไปถงึ
102 เครื่อง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกที่กำลังทางอากาศของสหประชาชาติได้เผชิญกับเครื่องบนิ
อันทันสมัยของข้าศึกเป็นเครื่องบิน มิก 15 สร้างในรัสเซีย เมื่อเกิดการปะทะกันทางอากาศชั่วเวลาเล็กน้อย
เครอื่ งบินข้าศกึ ดงั กล่าวก็ได้ผละหนีไปในดินแดนแมนจูเรีย
กองทัพที่ 8 ได้รับกำลังหนุนเพิ่มเติมมาตามลำดับโดยรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ อาทิ ฟิลิปปินส์
ออสเตรเลยี ตรุ กี ไทย และฮอลแลนด์ ไดส้ ง่ กำลังทหารมาชว่ ยดว้ ยความเต็มใจ นอกจากน้ัน กำลังส่วนหนา้ ของ
ฝรั่งเศส แคนาดา และจักรภพองั กฤษ กบั หน่วยเสนารกั ษข์ องสวีเดน กท็ ยอยมาถงึ กำลังพลของทหารสหรัฐที่
ขาดไปกไ็ ดร้ บั ความร่วมมือจากทหารเกาหลีใต้ การเร่งปรบั ปรงุ ไดก้ ระทำเพอื่ ความมงุ่ หมายสองประการควบคู่
กันไปคอื ปรับกำลังของสหประชาชาติให้อยู่ในระดับทีแ่ ข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันก็พยายามฝึกทหารเกาหลใี ต้
ให้อย่ใู นสภาพทจี่ ะพง่ึ ตัวเองได้ในโอกาสตอ่ ไป ใน 25 พฤศจกิ ายน 1950 กำลงั ภาคพื้นดนิ ของสหประชาชาติใน
เกาหลีมปี ระมาณ 420,000 คน เป็นทหารสหรฐั เสยี 177,000 คน ทหารเกาหลีใต้ประมาณ 200,000 คน

