Page 5 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 5
3
เหลา่ พลม้า (ทหารมา้ ) เรียก หัยนกึ ลกั ษณะม้าศึก เทา้ ทั้ง 4 กลมยาว เอวกลมตะโพกผาย หูทั้งสอง
ชัน ปลายปากยาว เขี้ยวเล็กแหลมดุจเขี้ยวหมี เสียงร้องดุจเสียงนกกระเรียน เล็บแดง มีกำลังเร็วดั่งจักร
หางเลื้อยปกส้นเท้า หน้าดุจหงษ์ เดินเร็วเสมอมิได้หยุด ลิ้นดุจกลีบสัตบุษขาว หน้าที่สำคัญของทหารม้า คือ
รักษาปกี ทหารราบ จงึ อยู่ทางปีกเสมอ ใชเ้ ดนิ กบั ว่ิงเรียบประจัญบาน การยิงบนหลังม้าถอื ว่าสำคัญนอกจากนี้
ยังใช้รักษาด่าน เข้าตีโอบ รบกวน ลาดตระเวน รักษาปีก ส่งข่าว อาวุธที่ใช้คือ ดาบ หอก ทวน ปืน
การแต่งกาย มีทง้ั แตง่ กายคน และแตง่ กายม้า
เหลา่ พลชา้ ง (ทหารช้าง) เรียก คชานึก ลักษณะชา้ งศกึ สงู งวงยาว งายาว โขมดหวั (ช้างสีดอไม่มีงา
ตัวผเู้ รียกชา้ งพลาย มงี า ตวั เมียเรียกช้างพัง ไม่มงี าหรอื มแี ต่ส้ัน ๆ เรียกขนาย) เทา้ ท้ัง 4 มนั่ คง หลงั ดั่งเกาทณั ฑ์
ตาดงั่ ดาว งาทัง้ สองดง่ั งอนรถ หใู หญ่ คางสะบ้า หดู จุ จามร งวงและหางถึงดิน มีน้ำมนั หนา้ หลัง เสียงดั่งฟ้าร้อง
ดำปลอด เดินดงั่ ราชสีห์ ใช้ทำการรบเรยี ก ยุทธหัตถี (เปน็ กระบวนยุทธวิธีตอ่ ต้านบนหลังชา้ ง พระมหากษัตริย์
หรือแม่ทัพ ขณะที่อยู่บนคอช้างศึกสามารถที่จะรำของ้าวเข้าฟาดฟันอริราชศัตรูได้ทุกขณะ ถือเป็นการสู้รบ
ที่ทรงเกียรติยศยิ่ง) และยังใช้บรรทุกเสบียงยทุ โธปกรณ์ ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกมาให้ทำการรบได้ ปกติ
ของช้างศึกจะมอี าการซับมันอยู่เปน็ นิจ เหมาะจะเข้าบกุ รกุ ขา้ ศึก
กรมชา้ งที่สังกัดกรมพระกลาโหม แยกชา้ งออกเปน็ 2 ประเภท คือ
ประเภท 1 กรมช้างต้น เรียกว่าช้างระวางใน เป็นช้างที่ทรงคุณอันว่าด้วยพระคชลักษณ์ เช่น
ชา้ งเผือกชา้ งสปี ระหลาด
ประเภท 2 กองช้างนอก จัดเปน็ กระบวนชา้ งศกึ ซ่งึ มรี ปู ร้วิ พระคชาธาร ดงั น้ี
- ชา้ งด้ัง เปน็ ชา้ งท่นี ัง่ ละคอ คือมีหมอช้างนั่งคอช้าง ควาญชา้ งนงั่ อย่ทู ้ายช้าง ควาญกลางหลังนั่ง
อยกู่ ลางหลงั เดนิ อยตู่ อนกลางแนวร้วิ ขา้ งหน้า
- ช้างกัน มีลกั ษณะเดียวกับชา้ งด้งั แตเ่ ดนิ อยตู่ อนกลางแนวรว้ิ ข้างหลัง
- ช้างแทรก ลักษณะเช่นเดียวกับชา้ งดั้ง แต่ไม่มีควาญท้าย มีหน้าที่ตรวจตราริ้วนอกทั้งสองข้าง
ทางซา้ ยและขวา
- ชา้ งแซง ลกั ษณะอยา่ งเดยี วกบั ช้างแทรก เดนิ เป็นร้ิวทง้ั สองขา้ งทางซ้ายและขวา
- ชา้ งล้อมวัง เป็นชา้ งผกู สัปคปั โถง มหี น้าท่ีแวดลอ้ มพระคชาธาร
- พระคชาธาร เป็นช้างผกู เครอื่ งม่ันมเี ศวตฉัตรคัดดาน 7 ช้นั อยู่กลางกระบวน
- ช้างค้ำ ช้างค่าย เรียกให้เต็มว่า ช้างต้นเชือกคา่ ย ปลายเชือกค้ำมี 10 ช้างด้วยกนั ช้างค่ายมี 6
ชา้ ง เดนิ ขา้ งหนา้ ช้างพระคชาธารจดั 2 แถวๆ ละ 3 ชา้ ง ชา้ งค้ำเดนิ คลา้ ยมาขา้ งท้ายพระคชาธาร จดั 2 แถว ๆ
ละ 2 ช้าง ผกู สปั คับโถง มที หารแม่นปนื สปั คบั ละ 1 คน มีหน้าที่เป็นองครกั ษ์ เดินอยวู่ งในของชา้ งลอ้ มวัง
- ช้างพังคา เป็นช้างผูกเครื่องมั่น สำหรับพระยาเสนาบดีและเจา้ ประเทศราช เดินเคียงคู่กับช้าง
พระคชาธารทางซ้ายและทางขวา ข้างละ 4 ชา้ ง
- ช้างพระไชย เป็นช้างผูกจำลอง หลังคากันยา สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเดินหน้า
พระคชาธาร

