Page 61 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 61

59

ทรงจัดรูปขบวนแบบฟาลงั ซ์ (Phalanx) ซึ่งเป็นขบวนรูปสี่เหลี่ยมกว้างด้านหน้าไมม่ ากแต่ลกึ พอสมควร ทหาร
ถือโลห่ แ์ ละหอกยาวอยู่ตรงกลาง มหี นว่ ยเคล่อื นทเ่ี ร็วอยู่ทางด้านข้าง ขบวนฟาลังซ์จะเข้าโจมตีขบวนรบข้าศึก
ตรงหน้า แล้วให้ทหารม้าหรือทหารราบเบาแยกเข้าโอบหลังแนวข้าศึก พระองค์ได้ใช้ยุทธวิธีนี้หลายครั้ง เม่ือ
ข้ามช่องแคบดาร์ดะเนลล์ (Dardanellesไปแล้ว ในฤดูใบไม้ผลิ 334 ปีก่อน ค.ศ.(22 พรรษา) ตอนที่เริ่มทำ
สงครามกบั เปอรเ์ ซยี ตามท่ีพระเจา้ ฟลิ ลปิ ราชบดิ าไดท้ รงวางแผนไวก้ อ่ นแล้ว

      รูปขบวนฟาลังซ์ (Phalanx) ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ประกอบด้วย 6 กองพันทหารราบ
แต่ละกองพันมีทหารถืออาวุธหนักเป็นหอกยาว 21 ฟุต เรียกว่า ซาริสซา (Sarissa) 1,500 คน ตั้งแถวชิดกัน
นอกจากนี้ยังมีทหารโล่ห์ (Hypaspists) อีก 3,000 คน ซึ่ง 1 กองพันในจำนวนนี้เป็น Agema ทหารรักษา
พระองค์เดนิ เท้า ส่วนกำลงั ทหารม้าน้นั มีกำลงั สำคญั ประกอบดว้ ย ทหารมา้ มาเซโดเนีย 8 กองพัน กองพันท่ี 1
เปน็ ทหารมา้ รักษาพระองค์ ภารกจิ ของทหารม้าสว่ นใหญ่เป็นการเข้าตี โดยปกตพิ ระเจา้ อเลก็ ซานเดอร์ จะทรง
นำกองทหารม้า Companion เอง อย่างไรก็ดี การจัดกองทัพโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปขบวน ฟาลังซ์ จะมีการ
ปรับปรุงแกไ้ ขอยู่เร่อื ย ๆ เพอื่ ให้เหมาะสมกับสภาพท่แี ตกตา่ งกันในเอเชีย

      การยุทธของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ในช่วงแรก เมื่อ 334 ปีก่อน ค.ศ. เป็นการบุกเข้ายึดครอง
เอเซียไมเนอร์ (Asia minor) ปัจจุบันเป็นดินแดนตุรกีในเอเซีย กองทัพของพระองค์ได้เผชิญกับกองทัพ
เปอรเ์ ซียซึ่งมกี ำลังมากกวา่ หวงั ทจ่ี ะรวมกำลงั ทุ่มเข้าปะทะและฆา่ พระเจา้ อเลก็ ซานเดอรใ์ ห้ได้ เพอื่ ทีจ่ ะหยดุ ยั้ง
การบุกรกุ เสยี แต่แรกเรม่ิ แตก่ ็เสียทีแก่กองทหารม้าถอื หอกเป็นอาวธุ ทำใหส้ ถานการณ์ท่ีเกือบจะชนะกลับต้อง
พ่ายแพ้ ขณะที่ทหารม้ามาเซโดเนียสูญเสียไม่เท่าไร และทหารม้ากรีกรับจ้างที่สู้รบให้แก่เปอร์เซียหลายคน
ได้ถูกสังหารอย่างไม่ปรานี กองบัญชาการภาคตะวันตกของเปอร์เซียที่ Sardis เมืองสำคัญทางการเมืองและ
เศรษฐกิจถูกยึด เมืองกรีกต่าง ๆ ที่เปอร์เซียปกครอง อยู่บนฝั่งทะเล Aegean อยู่ต้องสูญสิ้นไปด้วย ทั้งนี้
เปน็ การทำใหพ้ น้ื ท่เี ขตหลัง เมอื่ กองทัพของพระองคร์ กุ คืบหน้าตอ่ ไปมีความปลอดภัย พระเจา้ อเลก็ ซานเดอรไ์ ด้
เดินทัพเลียบฝั่งทะเล Aegean ลงทางใต้ แล้วหันกลับขึ้นทางเหนือ เข้ายึดเมือง Gordium เป็นการสิ้นสุดการ
เข้าขึดครองเอเซียไมเนอรใ์ นช่วงนี้

      เมื่อได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการและทหารมาเซโดเนียปกครอง และดูแลรักษาพื้นที่ที่ยึดได้แล้ว
พระองค์ก็ได้ทรงนำทัพมุ่งลงทางใต้สู่ชายฝั่งโฟนเี ซีย ( Phoenician) เข้าตีกำลังของกษัตริย์ Darius ที่ 3 แห่ง
เปอรเ์ ซยี ทเ่ี มอื ง Issus แตกพา่ ยไปอกี เมื่อ 333 ปีก่อน ค.ศ. ราชสมบตั ิของเปอร์เซยี ทีพ่ ระเจ้าอเล็กซานเดอร์
อยากได้นกั หนาก็ตกเป็นของพระองค์ กษัตริย์ Darius ได้เสนอขอแบ่งแยกจักรวรรดิกันแตพ่ ระเจ้าอเลก็ ซาน-
เดอร์ทรงปฏิเสธ เมือง ไทล์เร่ย์ (Tyre ) ทางใต้ของชายฝั่ง โพนีเซียน (Phoenician) ถูกตีแตกหลังจากถูกลอ้ ม
อยู่ 7 เดือน และเมือง Gaza ในปาเลสไตน์ (สมัยนั้น) ก็เช่นกัน หลังจากถูกล้อมอยู่เพียง 2 เดือน พระเจ้า
อเลก็ ซานเดอร์ทรงเคลื่อนทพั ตอ่ ไปยงั อียิปต์ และได้ประทับอยู่ท่นี นั่ ตลอด ฤดหู นาว ระหว่าง 332-331 ปีก่อน
ค.ศ. อียิปต์ยอมรับพระองค์ในฐานะเป็นผูป้ ลดปล่อยจากการปกครองโดยเปอร์เซีย และถวายราชบรรดาศักดิ์
ฟาโรห์ (Faroh) ให้ด้วย พระองค์ได้มีรับสั่งให้สร้างเมืองริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขึ้นใหม่ให้ชื่อว่า
อเล็กซานเดรีย (Alexandria) ในชว่ ง 331-330 ปกี อ่ น ค.ศ. พระเจ้าอเล็กซานเดอรไ์ ด้เคล่ือนทัพจากอียิปต์ย้อน
ขึ้นทางเหนือไปยังเมือง ดารมัสคัส (Damascus) แล้วข้ามดินแดน Mesopotamia ไปยังใจกลางจักรวรรดิ
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66