Page 66 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 66

64

และ บายาน (Bayan) ผู้ล้มล้างอำนาจของอาณาจักรซุงในจีนใต้ ท่านเหล่านี้มีความสามารถทางยุทธศาสตร์
เกือบจะเท่ากับเจงกีสข่านและสุโบไต เจงกีสข่านเรียนรู้การเป็นผู้นำทางทหารเอาเอง จากการทำสงครามใน
สนามรบอันกวา้ งใหญไ่ พศาล ผ้บู งั คบั หน่วยท่สี ามารถจะไดร้ บั การแตง่ ต้งั ในตำแหนง่ สูงขึ้นอย่างทวั่ ถึงไม่ขาดตก
บกพร่อง ระบบการเลื่อนยศตำแหนง่ ถือเอาความรู้ความสามารถเป็นเกณฑ์อยา่ งเดียว ออล๊อก (จอมพล) บาง
คนยังหนุ่มอยู่มาก สุโบไตกับจีบาได้ขึ้นครองตำแหน่งสูงเมื่ออายุยังไม่ถึง 35 ปี เจงกีสข่านจะบำเหน็จรางวัล
และยกย่องให้ประชาชนทราบ เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาทำความดี ขณะที่ผู้นำหน่วยคนใดไม่สามารถปฏิบัติตาม
คำสั่งได้ อาจถึงกับฆ่าตัวตายทันที ผู้บังคับบัญชาของมองโกลทกุ คน มีลักษณะที่เหมือนกันอยู่ 2 ประการ คือ
การนำหนว่ ยอย่างกลา้ หาญเป็นตวั อยา่ ง และทกุ คนต่างเขา้ ใจแนวความคิดในการปฏิบตั อิ ย่างเดยี วกัน ซึ่งทำให้
สามารถปฏิบตั กิ ารเปน็ อิสระ ไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกับแผนทัว่ ไปหรอื แผนใหญต่ ลอดเวลา

      การยุทธที่แสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์และอัจฉรยิ ะของเจงกีสข่าน หนึ่งในหลายการยุทธเห็นจะไดแ้ ก่
การบุกจักรวรรดิขะวาริซเมียน (Khwarizmion) ในปี พ.ศ.1761-1767 ในสมยั นั้นอาณาจักรน้ีครอบคลุมพื้นที่
ตุรกี เปอร์เซีย และอินเดียตอนเหนือ ปัจจุบันเป็นแคว้น Uzbek ของสหภาพ โซเวียต(เดิม) ตอนใต้ติดกับ
อัฟกานิสถาน สาเหตุของสงครามเนื่องมาจากโมฮาเหม็ดซาห์ (Mohammed shah) ผู้ปกครองจักรวรรด์ิ ได้
ปฏิบัติตอ่ ฑูตมองโกลอยา่ งไม่เปน็ ธรรมใน พ.ศ.1761

      หลงั จากไดร้ วบรวมข่าวและประเมนิ สถานการณ์เรยี บร้อยแล้ว เจงกสี ขา่ นก็ได้เตรียมการบุก โดยรวม
กำลังหลักส่วนใหญ่ไว้ทางตะวันออกของทะเลสาบ Balkhash ริมฝั่งแม่น้ำ Irtish ในฤดูร้อน ปี พ.ศ.1762
เจงกสี ขา่ นไดใ้ หล้ กู ชาย จูจิ (Juji) นำกำลัง 3 ตัวมาน (30,000 คน) ข้ามแมน่ ำ้ Chu ม่งุ สแู่ ม่นำ้ Syr Darya เพ่ือ
ปกปิดเจตนาและการเตรยี มการบกุ กำลงั ของจจู ิกระจายไปทวั่ บริเวณ เพอื่ แสดงกำลังอยา่ งมปี ระสิทธิภาพตาม
แผน เม่ือโมฮมั เหมด็ ซาห์ ทราบข่าวจึงได้ส่งลูกชาย จาลาล-อัด-ดิน (Jalal addin) กับทหาร 200,000 คน ไป
ผลกั ดนั เมื่อจาลาลไปถึงจูจิได้สำเรจ็ ภารกิจแล้ว มองโกลไดส้ ง่ มา้ และอาหารสัตวท์ ี่ไม่จำเปน็ ต้องใช้กลับทั้งหมด
และทำการถอนตัว จาลาลเข้าตีโต้ตอบแต่มองโกลก็ผละจากการปะทะโดยเร็วด้วยการเผาหญ้าในทุง่ ราบ และ
หลบหายไปหลงั ฉากควนั จาลาลไม่ไดไ้ ล่ตดิ ตามต่อไป

      เจงกีสข่านไม่ได้เคลื่อนไหวกำลังเป็นเวลาหลายเดือน ข้างฝ่ายซาห์นั้น เมื่อได้รวบรวมพล
ชาวเตอร์ก-มุสลมิ มากกว่า 400,000 คน ทำใหร้ สู้ กึ มน่ั ใจว่าตนสามารถจะหยุดยง้ั การบกุ ของมองโกลได้โดยเร็ว
แต่ก็เหมือนกับข้าศึกของนโปเลียนใน ค.ศ.ท่ี 19 ซาห์วางแนวตั้งรบั อย่างผิดพลาด เป็นวงล้อมตามแนวแม่น้ำ
ไซดาร์ยา (Syr Darya) โดยหันหน้าทางทิศเหนือ อาศัยเหมืองต่าง ๆ ที่เรียงรายอยู่ เสริมความแข็งแรงให้แก่
แนวตัง้ รบั นี้ ขา้ งหลังแนวตง้ั รบั เปน็ ทต่ี ง้ั ของศนู ยก์ ำลงั 2 แห่ง ซามาร์คานด์ กบั บูคารา อยูท่ างตะวันตกเฉียงใต้
ของแมน่ ้ำ Syr Darya

      ตอ่ มาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.1762 เจงกีสขา่ นจึงได้นำกำลงั สว่ นใหญ่ของกองทัพมองโกลออกเดินทาง
จากแม่นำ้ อริ ต์ ิซ (Irtish) ท่านไดแ้ บ่งกำลงั ออกเปน็ 4 กองทัพ กองทพั ละ 4-5 ตวั มาน กองทัพท่ี 1, 2 ในบังคับ
บญั ชาของจจู กิ บั เจบิ เคลื่อนลงไปทางใต้ มงุ่ สู่ต้นแมน่ ้ำ อมั มูดารย์ า (Amu Darya) กองทพั ที่ 3 ในบังคับบัญชา
ของ โอเกได (หรือออกาได) ภายหลงั ได้เปน็ ขา่ นสบื ทอดจากเจงกีสข่าน ในรชั สมยั ของโอเกได กองทพั มองโกล
ได้บุกไปถึงมอสโก เคียฟ และเมืองอื่น ๆ ในรัสเซีย ฮังการี โปแลนด์ และข้ามแม่น้ำดานูบ ขณะที่น้ำในแม่น้ำ
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71