Page 64 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 64

62

ได้ทำการเขา้ ตอี ยเู่ สมอ ๆ แมว้ า่ จุดหมายทางยุทธศาสตร์จะเปน็ การตงั้ รบั ก็ตามการท่พี ยายามโจมตีข้าศึกไม่ให้
ตงั้ ตัวไดอ้ ย่ตู ลอดเวลาน้ี ย่อมเป็นการทำใหก้ องทพั มองโกลเปน็ ฝา่ ยรเิ รม่ิ ได้อยู่เสมอ

      ก่อนที่จะเปดิ ฉากการบุกประเทศใด เจงกีสข่านจะส่งจารบุรุษและหนว่ ยสอดแนม (Imperial guard)
จำนวนมากเข้าไปในประเทศเปา้ หมาย พวกจารบรุ ุษจะพยายามก่อให้เกิดการแตกแยกขึ้น ขณะทพี่ วกสอดแนม
ก็จะเฝ้าดขู ้าศึกและปกปิดกำบงั การเคลื่อนยา้ ยของกองทัพมองโกลเมือ่ ใกล้จะถึงเวลาบุก โดยรวมกนั เป็นกลุม่
เล็ก ๆ ตดิ อาวุธซุ่มอยตู่ ามช่องทางเขา้ ประเทศและภายในประเทศ ทำใหข้ ้าศกึ เกิดการหวาดกลวั และ สับสนใน
การปะทะข้าศึกทุกคราวไม่ว่าขนาดใหญ่หรือย่อย ในการปฏิบัติการที่ได้ช่วยให้แม่ทัพมองโกลมีอิสระในการ
ดำเนินกลยุทธ์นั้น ผู้บังคับหน่วยรองจะต้องเสี่ยงเข้าโจมตีข้าศึกโดยการสนับสนุนของหน่วยเหนือ
มิงข่าน (Mingkhan) (ผู้บังคับกองร้อย) อาจนำกำลังขนาด 100 คน ไปโผล่ขึ้นอย่างฉับพลัน ณ จุดใด ๆ แล้ว
บังคบั ใหข้ ้าศึกยอมแพ้ เนอื่ งจากข้าศกึ ที่ตงั้ รับอยู่ไมม่ ีทางท่จี ะทราบได้ว่าจะยงั มีหรอื ไม่มีทหารมองโกลอีกก่ีพัน
คนตามหลังมา ในการเปิดฉากการบุกทุกครัง้ กำลังหลักของกองทัพมองโกลซ่ึงโดยธรรมดาจะมีกำลัง 3-5 ตัว
มาน (Touman) (หน่วยขนาดกองพล 1 ตวั มานประมาณ 10,000 คน) จะเคล่อื นท่ีรกุ ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
โดยมีขบวนแถวตอนของทหารม้าเบา (Light cavalry) หลายขบวนเต็มกว้างด้านหน้าทำการกำบังให้อยู่
ข้างหน้า การติดต่อสื่อสารกระทำโดยพลนำสารขีม่ า้ และระบบส่งสญั ญาณอย่างสมำ่ เสมอ รูปขบวนดังกล่าวมี
ความอ่อนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม่ือข้าศึกมีกำลังมากกว่า หรือฝ่ายมองโกลยังไม่ทราบที่ตั้งของขา้ ศึกทีแ่ น่ชดั
เม่อื ขบวนทหารม้าท่กี ำบงั ใหแ้ ก่กำลังส่วนใหญไ่ ปปะทะเข้ากับข้าศึก อาจจะตรงึ ขา้ ศกึ อยูท่ นี่ ่ัน หรอื ถอยหลบไป
ทางอ่นื แล้วแต่สถานการณ์

      กองทัพมองโกลใช้ความลึกของพื้นที่สนามรบทั้งหมด ทำให้กำลังข้าศึกไม่อาจรวมกำลังกันเพื่อที่จะ
เปน็ ฝ่ายไดเ้ ปรียบเมอ่ื ข้าศกึ รวมกำลงั ได้เขม้ แขง็ โดยปกติมองโกลจะไม่นำกำลงั เขา้ ปะทะโดยตรง แต่กลับจะทำ
การเข้าตีลึกเข้าไปในเขตหลังของข้าศึก โดยให้กำลังเพียง 1 ตัวมาน (10,000 คน) ตรึงข้าศึกไว้ แล้วใช้กำลัง
สว่ นใหญเ่ ข้าทำลายชมุ ชนพลเรอื น กำลังข้าศกึ ทยี่ ังไมไ่ ด้เขา้ ทำการรบ และสง่ิ อำนวยความสะดวกท่ใี ช้สนับสนุน
กองทัพข้าศึกมองโกลใช้อาวุธป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้าใกล้ตัวได้สะดวก ทหารยุโรปตัวใหญ่กว่ามีอาวุธประชิด
ดีกว่าทหารมองโกล ฉะนั้น มองโกลจึงใช้ธนู (Bow) เป็นอาวุธยิงไกล ทำลายกำลังข้าศึกให้บาดเจ็บล้มตายลง
มาก ๆ ก่อนที่จะเข้าถึงตัว มองโกลได้ใช้เชลยศึกที่จับได้จำนวนมากกำบังการรุกของตนอยู่บ่อย ๆ เป็นการ
บงั คบั ให้ข้าศกึ เข่นฆา่ ทหารพวกเดยี วกนั กอ่ นท่ีจะเขา้ รบประชิดทหารมองโกลได้ การยงิ ธนไู ปยงั ข้าศกึ จากข้าง
หลังฉากกำบังด้วยมนษุ ย์ ทำให้มองโกลสามารถเพิม่ ความสับสนแก่กำลังขา้ ศึกได้อย่างมาก นอกจากธนูแล้ว
มองโกลยงั ใชร้ ะบบอาวธุ อ่ืน ๆ อกี เช่น เครื่องซดั ส่ง (Catapult) จรวด ปืนใหญ่แบบง่าย ๆ หน่วยทหารชา่ งของ
เจงกีสข่านมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และจูเลียส ซีซาร์ ทีเดียว อาวุธ
ยทุ โธปกรณเ์ หล่านี้ช่วยใหแ้ ม่ทัพมองโกลมคี วามออ่ นตัวเพิม่ มากขน้ึ

      กองทัพมองโกลมีความคล่องแคล่วสูง เพราะกำลังเกือบทั้งหมดเป็นทหารม้า ทหารแต่ละคนมีม้า
สำรองหนึ่งหรือสองตัวอีกด้วย กองทัพของเจงกีสข่านสามารถไล่ติดตาม โมฮาเหม็ด ซาห์ (Mohammed
shah) เมอ่ื ปี พ.ศ.1764 เป็นระยะทาง 130 ไมล์ ใน 2 วนั ในปี พ.ศ.1784 กองทัพของสุโบไตไดเ้ ดนิ ทางฝา่ หิมะ
หนาและความหนาวเย็นของฤดหู นาวไกล 180 ไมล์ ใน 3 วนั เพือ่ โจมตีเมืองตา่ ง ๆ ของรัสเซีย ความคล่องแคล่ว
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69