Page 82 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 82
80
ใน 14 สิงหาคม ค.ศ.1914 ขณะทกี่ องทพั ที่ 1 ของเยอรมนั ในบังคบั บัญชาของ พลเอกอเลก็ ซานเดอร์
ฟอน กลุ๊ค (Alexander von kluch) ยังคงทำการสู้รบฝ่าที่มั่น นายพล จอฟเฟร (Joffre) ผู้บัญชาการทหาร
สงู สดุ ของฝร่ังเศสกไ็ ดเ้ ร่ิมเจาะแนวรบเยอรมันอย่างไมห่ ยุดย้งั จนถงึ 25 สงิ หาคม แต่กลับปรากฎวา่ ฝร่ังเศสเอง
ต้องเสียหายอย่างหนกั สญู เสียทหารไปถึง 300,000 คน แนวรบฝรัง่ เศสตอนกลางและปกี ขวาต้องถอยลงมาอยู่
ทางตะวนั ตกของแวรด์ ัน (Verdun) พลเอก มอลเค้ (Helmuth von Moltke) (หลาน จอมพล เคานต์ เฮลมุท
คาล เบอนฮาด ฟอน มอลเค้ เสนาธิการปรัสเซีย ค.ศ.1800-1891) นึกว่าสามารถเอาชนะการยุทธแตกหักใน
ฝรั่งเศสได้แล้ว แต่ ปรากฎว่ากองทัพที่ 8 ที่ไปยันรสั เซียทางปรัสเซียตะวันออก ต้องเสียทีแก่รัสเซีย มอลเค้จงึ
ต้องส่ง 2 กองทัพน้อยกับ 1 กองพลทหารม้า ของกองทัพที่ 2 และ 3 ทางปีกขวาทางแนวรบด้านฝรั่งเศสไป
ช่วย ทำให้กำลงั ของกองทัพทั้งสอง ซง่ึ ถูกดึงเอา 3 กองทัพน้อย ไปยนั ทัพเบลเยี่ยมท่ีแอนทเ์ วอร์ฟ (Antwerp)
และเข้าล้อมมำเบิร์ก (Maubeuge) เสียก่อนแล้ว มีกำลังน้อยลงไปมาก ประกอบกับแม่ทัพต่าง ๆ ทำการรบ
อย่างอิสระ ไม่อยู่ในความควบคุมของ มอลเค้ เป็นเหตุให้กองทัพที่ 1 ต้องเคลื่อนที่ลงมาทางตะวันออกของ
ปารสี แทนทจ่ี ะเปน็ ตะวันตก ทำใหเ้ มืองหลวงและศนู ยก์ ารรถไฟของฝร่ังเศสรอดพ้นจากการถกู ยึดครองไป
ข่าวการรุกเข้าหาด้านซ้ายของแนวรบฝรั่งเศส โดยกองทัพที่ 1 เยอรมัน ได้ทำให้ฝรั่งเศสต้องจัดต้ัง
กองทัพท่ี 6 ขึ้นใหมใ่ กล้ ๆ เมืองอาเมียงส์ (Amiens) แล้วเดินทางโดยรถไฟมายัง Amiens ใน 1 กันยายน แต่
แล้วกองทัพนี้ก็ต้องถอยเข้าปารีสโดยข้ามแม่น้ำโออุเรด (Oureq) ใน 4 กันยายน วันรุ่งขึ้น การยุทธโออุเรค
(Oureq) ก็ได้เริ่มขึ้น เป็นการอุ่นเครื่องก่อนการยุทธสำคัญที่แม่น้ำมาร์น (Marne) ใน 7 กันยายน เยอรมัน
ทำทา่ วา่ จะแพ้ กองทัพท่ี 1 เยอรมัน จึงให้กองทพั น้อยที่ 9 และ 3 ทางปกี ซ้าย ไปชว่ ยกองทพั น้อยท่ี 4 ทางปีก
ขวา โดยไม่ได้ประสานงานกับกองทัพที่ 2 ทางซ้ายเลย ทำให้เกิดช่องว่างกว้างประมาณ 20 ไมล์ ระหว่าง
กองทัพที่ 1 กบั ที่ 2 กองทัพองั กฤษจงึ ฉวยโอกาสรุกเขา้ ไปในช่องว่างนัน้ ทันที
มอลเค้ ในตอนน้ไี ด้มาต้ังกองบญั ชาการอยู่ที่ลักแซมเบอร์ก (Luxemburg) ได้ข่าวการรบไม่สู้ดีนัก ทำ
ให้วิตกอยู่มาก แต่แทนที่ตนเองจะรีบรุดไปที่กองทัพที่ 1, 2 และ 3 เพื่อประสานงานและแก้ไขสถานการณ์ท่ี
กำลังคับขัน มอลเค้กลับให้ พันโท เฮนซ์ (Hentsch) ฝ่ายเสนาธิการชั้นผู้น้อยเป็นผู้แทนออกเดินทาง เมื่อ 8
กันยายน ไปติดต่อให้กองทัพตา่ ง ๆ ทางปีกขวา ถอยเข้าหาแม่นำ้ แอสน์ (Aisne) แม่ทัพกองทพั ที่ 1 จำใจต้อง
ถอยไปยังเมืองโซลส์ซองส์ (Solssons) ทั้ง ๆ ที่ขัดกับความเห็นของตนเองที่ดีกว่า ด้วยเหตุนี้แผนของ
ชลฟิ เฟนจึงตอ้ งลม้ เหลว เพราะแม่ทัพและฝ่ายเสนาธกิ ารของกองทพั ไมเ่ ป็นตวั ของตวั เอง
ใน 13 กนั ยายน กำลงั ของเยอรมันไดห้ ยุดถอย หนั มาสกู้ ับกำลงั ทีไ่ ลต่ ิดตามท่แี ม่น้ำแอสน์ (Aisne) การ
รบได้เป็นไปในลักษณะเกือบจะอย่กู ับที่ การยทุ ธตอนต่อไปเป็นการแขง่ ขันไปให้ถงึ ช่องแคบองั กฤษ โดยทั้งสอง
ฝ่ายพยายามที่จะโอบปีกของกันและกนั แต่ก็ไม่มฝี ่ายใดได้เปรียบ จนกระท่ังไปถงึ ฝั่งทะเล การสู้รบแต่ละครง้ั
ฝ่ายตง้ั รับจะมีความแขง็ แรงกว่าฝ่ายเข้าตี โดยการใช้การยงิ ขดุ สนามเพลาะ และสร้างเคร่อื งกดี ขวางประกอบ
กันอาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ.1914 ถึงมีนาคม 1918 ในแนวรบตะวันตก ไม่มีการเข้าตีคราวใดเลยท่ี
สามารถรุกไปได้ไกล 10 ไมล์ ไม่ว่าในทิศทางใดกต็ าม
เม่ือมาถงึ ตอนนี้ความคล่องแคลว่ ในการเคล่ือนย้ายเปน็ สง่ิ สำคญั ในการที่จะเอาชนะการตั้งรับ ท้ังสอง
ฝ่ายพยายามใชป้ นื ใหญ่ระดมยิงเปดิ ช่องว่างแนวตง้ั รับของข้าศึก แต่ในฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ.1914 ปรากฎว่าไม่มี

