Page 83 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 83
81
ปืนใหญแ่ ละกระสุนเพยี งพอที่จะยงิ เจาะชอ่ งวา่ งกัน เมอื่ ขาดกระสนุ ปนื ใหญ่ การเจาะและขยายแนวทหารราบ
ที่ทำการตั้งรับ จึงไม่ประสบผลสำเร็จ และเมื่อเข้าตีไม่ได้ผลต่างฝ่ายจึงเริ่มใช้ความคล่องแคล่วทำการเปลี่ยน
แนวรบ
3. การยุทธรอง
ฝ่ายพันธมิตรไดม้ งุ่ ท่ีจะโจมตเี อาชนะเยอรมันให้ได้ในปี ค.ศ.1914 นี้ เพราะเมื่อเยอรมันแพ้ก็จะทำให้
พันธมิตรของเยอรมันแพ้ไปด้วย โดยที่กองทัพเยอรมันเป็นจุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) ที่หากพ่ายแพ้
แล้วก็จะทำให้กำลังส่วนอื่นๆ พลอยแพ้ตามไปดังที่เคล้าเซวิตซ์ (Clausewitz) ได้กล่าวไว้ แต่เนื่องจากฝ่าย
พนั ธมติ รไมม่ แี ผนยุทธศาสตร์ร่วมกนั นายพล จอฟเฟร (Joffre) ยนื กรานท่จี ะให้กำลงั ท้งั หมดรวมอยูใ่ นฝรั่งเศส
เพราะเป็นพื้นที่เดียวที่จะใช้กำลัง และส่งกำลังบำรุงให้หน่วยรบได้อยา่ งเต็มที่ แต่เมื่อการยุทธได้ชะงักงันลง
ในตอนนี้ อังกฤษจงึ ได้เสนอให้เอาชนะเยอรมัน โดยทำการยุทธทั้งทางบกและทางเรือร่วมกัน เพื่อเข้ายึดเมือง
ออสเตนด์ (Ostend) และซีบรุกก์ (Zeebrugge) เป็นการหันเหทิศทางของปีกเยอรมัน บ้างก็เสนอให้โจมตี
ชายฝั่ง Schleswing-Holstein แต่นายพลเรือ Sir Winston Churchill มีความเห็นเมื่อ 1 มกราคม
ค.ศ.1915 ว่าควรสง่ กำลงั ไปยึดชอ่ งแคบดาร์คะเนลล์ (Dardanelles) เพือ่ เปิดเสน้ ทางติดตอ่ กบั กำลงั ของรัสเซีย
ยึดเมือง คอนเทนติโนเปิน(Contantinople) และช่องแคบ Bosphorus ซึ่งจะทำให้การชะงักงันของสงคราม
กลับคึกคักขึ้นมาใหม่อีก ฝ่ายพันธมิตรยอมรับและได้ดำเนินการตามข้อเสนอของ Churchill แต่ปรากฎว่า
การยทุ ธนต้ี อ้ งลม้ เหลวและเป็นเหตุใหต้ รุ กเี ข้ารว่ มสงครามข้างฝา่ ยเยอรมนั ในปลายตุลาคม กำลงั ทยี่ กพลข้ึนบก
ก็ต้องถอนกลับทั้งหมด เมื่อ 9 มกราคม ค.ศ.1916 ทหารอังกฤษกับฝรั่งเศสที่เข้าร่วมการยุทธทั้งหมด
410,000 คน ต้องตาย บาดเจ็บ สูญหาย ถูกจับเป็นเชลย และเจ็บไข้ได้ป่วย 252,000 คน ในฤดูใบไม้ร่วง
ปี ค.ศ.1915 ฝรงั่ เศสได้ตดั สนิ ใจส่งกำลังไปชว่ ย Serbia ท่ีถกู ออสเตรียโจมตี อังกฤษเห็นดว้ ย และไดส้ ง่ กำลงั ไป
ขึ้นบกที่ Salonika เมื่อ 3 ตุลาคม ค.ศ.1915 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทำการยุทธกันที่มาซีโดเนีย (Macedonia) ถึง
3 ปี โดยสองฝ่ายต้องทำการตั้งรับอยู่แต่ในที่มั่น ทหารอังกฤษเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล 481,262 คน
บาดเจ็บล้มตายในการรบ 26,750 คนนอกจากการยุทธใน 2 บริเวณดังกล่าวแล้ว ยังมีการยุทธเมโสโปเตเมยี
(Mesopotamia) อีก โดยเริ่มสู้รบกับตุรกี ตั้งแต่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1915 ถึง 29 เมษายน ค.ศ.1916 การยุทธ
ไดจ้ บลงด้วยการยอมแพข้ องทหารองั กฤษและอนิ เดยี 10,061 คน ทหารชาตอิ น่ื ๆ อกี 3,248 คน ในกันยายน
ค.ศ.1917 กำลงั ทหารของอังกฤษไดเ้ พิ่มขึน้ ไปถงึ ประมาณ 340,000 คน และสงคราม ในปี ค.ศ.1918 มากกว่า
414,000 คน จากจำนวนนีต้ ้องสูญเสยี ทหารจากการรบ 93,500 คน และไม่ใชจ่ ากการรบ217,000 คน
การยทุ ธอีกบรเิ วณหนง่ึ เปน็ การป้องกันคลองสเุ อซ (Suez canal) ในมกราคม ค.ศ.1915 โดยทำการสู้
รบกับทหารตุรกี (Turkey) และ Bedouin จนถึงธันวาคม ค.ศ.1916 แล้วก็ตั้งรับกันเสียส่วนมาก ต่อมา
นายลอยด์ ยอรช์ (Loyd George) นายกรฐั มนตรีอังกฤษให้ความเห็นว่า ควรจะดำเนนิ ยุทธศาสตร์เชิงรุกเสียที
โดยมุ่งทำลายพันธมิตรของเยอรมันให้พ่ายแพ้เสียก่อน ซึ่งจะทำให้เยอรมันแพ้ตามไปด้วย ดังนั้น
การยุทธปาเลสติน (Palestine) จึงเร่ิมขึ้นด้วยการขยายการยุทธ ป้องกันคลองสุเอซ เข้าไปในดินแดน
Palestine และมกี รุงเยรซู าเลม(Jerusalem) เปน็ ที่หมายหลกั การยทุ ธด้านนไี้ ดย้ ืดเยือ้ ไปจนกระท่ังยุตสิ งคราม
แต่ก็ใช้กำลังทั้งสองฝ่ายเข้าสู้รบกันถึง 432,857 คน สูญเสียจากการรบประมาณ 58,000 คน ความพยายาม

