Page 88 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 88

86

เยอรมันยงิ จม การปิดกั้นทีม่ ีผลต่อประชาชนในเขตหลัง ทำให้การโฆษณาชวนเชื่อได้ผลดีมากขึ้น ทั้งทหารใน
แนวรบและประชาชนในเขตหลงั ต่างไมม่ ีจิตใจจะทำสงครามต่อไปอีก

      ด้วยผลของการยุทธแตกหัก เมื่อ 8 สิงหาคม ค.ศ.1918 และการพ่ายแพ้ของฝ่ายเยอรมันต่อ ๆ มา
เยอรมันได้แจ้งให้สหรัฐ ฯ ทราบ ใน 3 ตุลาคม 1918 ว่ารัฐบาลเยอรมันยอมรับเงื่อนไข 14 ประการ เป็น
พ้ืนฐานในการเจรจาเพื่อสนั ติ สหรฐั ฯ ไดต้ อบกลับไปใน 23 ตุลาคม 1918 ว่าจะไม่มีการเจรจาเพ่ือสันติแต่ให้
เยอรมันยอมแพ้ ครั้นถึง 3 พฤศจิกายน ได้เกิดการปฏวิ ัติขึ้นในกรงุ เบอร์ลิน และ 9 พฤศจิกายน 1918 ก็ได้มี
การลงนามในสัญญาสงบศึก ระหว่างฝ่ายพันธมิตรกับฝ่ายเยอรมัน ที่สถานีรถไฟ Rethondes ในป่า
Compiegne

      7. บทเรยี นจากสงคราม
      สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ให้บทเรียนทางยุทธศาสตร์ และก่อให้เกิดวิวัฒนาการของอาวุธยุทโธปกรณ์
กลา่ วคอื

         1. สงครามครั้งนี้เป็นสงครามเบ็ดเสร็จ ที่ทำการสู้รบกันทั้งในสนามรบและเขตหลังของประเทศคู่
สงคราม ที่ประชาชนและกำลังอำนาจทั้งมวลของประเทศ ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกับการชนะหรือแพ้
สงคราม เปน็ การสงครามในระดบั ยุทธศาสตรช์ าติ ไม่ใชเ่ ฉพาะแต่ยทุ ธศาสตร์ทหารเท่านน้ั การปิดก้นั การขนส่ง
ทางทะเลและการโฆษณาชวนเชือ่ ของอังกฤษ เป็นการทำสงครามต่อเขตหลังของฝ่ายเยอรมัน นับได้ว่าเป็นการ
ดำเนนิ กลยทุ ธเข้าหาข้าศึกทางออ้ ม ทกี่ วา้ งไกลที่สดุ เทา่ ท่เี คยมีมาก่อน

         2. ในสงครามนี้ ได้มีการโจมตีทิ้งระเบิดระยะไกลถึงเกาะอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยเรือเหาะ
Zepplin L 48 ของเยอรมัน ในปี ค.ศ.1917 ซึ่งเป็นความพยายามที่จะเอาชนะข้าศึกด้วยการโจมตีแนวหลัง
ขององั กฤษโดยตรง นบั ไดว้ า่ เป็นสัญญาณบ่งบอกถงึ ความสำคญั ของกำลังทางอากาศ ท่จี ะเป็นปัจจัยเดด็ ขาดใน
การทำสงครามในอนาคต ซึ่งกป็ รากฎเป็นความจริงในสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ทไ่ี มใ่ ชเ่ ฉพาะแตก่ ารโจมตีทิ้งระเบิด
กันอย่างธรรมดาเท่านั้น หากแต่ยังมีการใช้เครื่องบินที่ไม่มีนักบิน V-1 และจรวด V-2 โจมตีเกาะอังกฤษ
ตลอดจนการทิ้งระเบิดปรมาณู ลงที่เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) และนางาซากิ (Nagasaki)บังคับให้ญี่ปุ่นตอ้ ง
ยอมแพ้สงคราม

         3. แม้ว่าจะเป็นภาคีของสัญญากรุงเฮก ปี ค.ศ.1899 ที่ห้ามใช้สารพิษเป็นอาวุธในการทำสงคราม แต่ก็
ปรากฎว่าทั้งสองฝ่ายได้นำเอาไอพษิ มาใช้ในสงครามครัง้ นี้ โดยฝ่ายเยอรมันเปน็ ผูเ้ ริม่ ใช้ก่อนและได้มกี ารพัฒนา
ปรับปรุงการใช้และการป้องกันในระหว่างสงคราม การใช้ไอพิษยังคงมีต่อ ๆ มา เช่น ในสงครามอิรัก อิหร่าน
การสู้รบในกัมพูชา เป็นต้น หลายประเทศได้ผลิตและสะสมอาวุธประเภทนี้ไว้มากบ้างน้อยบ้างขณะที่การ
ป้องกันก็ได้พัฒนาควบคู่กันไป และปลอดภัยมากข้ึน ดังเช่น เครื่องปอ้ งกนั ของทหารสหรัฐ ฯ ในสงครามอ่าว
เปอร์เซีย รถถังและยานเกราะแบบล่าสุด จะสามารถป้องกันไม่ให้ไอพิษเล็ดลอดเข้าไปเป็นอนั ตรายแก่ทหาร
ขา้ งในได้ด้วย

         4. อังกฤษประสบผลสำเรจ็ อยา่ งมากในการคิดสร้างรถถงั และนำออกใช้อย่างจ่โู จมในสงครามคราว
นรี้ ูปแบบรถถงั และลักษณะการใช้ไดว้ วิ ัฒนาการอยูเ่ รื่อย ๆ ในระหวา่ งสงคราม
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93