Page 29 - version 4.2
P. 29
การศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียชนิดไวแวกซ์ขั้นหายขาดอย่างเหมาะสม ฉบับที่ 4.2 วันที่ วันที่ 08 มีนาคม 2564
ด้วยยาทาฟีโนควินหรือไพรมาควินโดยใช้การตรวจวัดระดับเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณ ประเทศไทย
5. สถานที่ศึกษาวิจัย
โครงการนี้จะดำเนินงานที่ สถานบริการสาธารณสุขต่อไปนี้ในจังหวัดยะลา:
อำเภอธารโต - โรงพยาบาลธารโต และมาลาเรียคลินิก
อำเภอยะหา - โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช
อำเภอกรงปีนัง - โรงพยาบาลกรงปีนัง
อำเภอกาบัง - โรงพยาบาลกาบัง
อำเภอเมือง - มาลาเรียคลินิก
สถานบริการสาธารณสุขเหล่านี้ เป็นที่ให้การรักษาผู้ป่วยมาลาเรียและทำการติดตามผลหลังการรักษา
ิ่
ถ้าต่อมาพบว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยเชื้อชนิด P. vivax ในสถานบริการสาธารณสุขดังกล่าวลดลง ก็อาจจะเพมสถานที่
เข้าร่วมโครงการฯ (ได้แก่ โรงพยาบาลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โรงพยาบาลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร
จังหวัดนราธิวาส และโรงพยาบาลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา)
สถานบริการสาธารณสุขที่คัดเลือกเข้าโครงการนี้ได้ผ่านการประเมินโดยกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ
ของสถานบริการฯ ในด้านความสามารถบำบัดรักษาผู้ป่วยมาลาเรียด้วยเชื้อชนิด P. vivax ได้ และสามารถตรวจ
วินิจฉัยบำบัดรักษาผู้ป่วยที่เกิด AHA ได้ (รวมทั้งมีการจัดตั้งระบบส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานบริการระดับสูงกว่าเพอให้
ื่
ทำการถ่ายเลือดได้ในโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยส่งต่อ) การอบรมบุคลากร และมีจำนวนประชากรผู้ป่วยที่ใช้ศึกษา
พอเพียง อุปกรณ์ตรวจระดับเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณจะมีใช้ที่โรงพยาบาลชุมชนและมาลาเรียคลินิกในจังหวัด
ยะลาตั้งแต่ต้นปี 2563 เพื่อประกอบการรักษาขั้นหายขาดด้วยยา PQ ตามแผนปรับปรุงแนวทางการรักษา
มาลาเรียของกองโรคติดต่อนำโดยแมลง
กองโรคติดต่อนำโดยแมลงจะจัดส่งยา TQ เครื่องอ่านระดับเอนไซม์ G6PD และชุดตรวจเอนไซม์ G6PD
เพิ่มเติมให้แก่สถานบริการสาธารณสุขที่ร่วมโครงการฯ หลังจากการอบรมบุคลากรของสถานบริการฯ เสร็จสิ้น
จะมีการเยี่ยมสถานบริการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมใช้ในศึกษาได้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงาน
โดยจะทบทวนหัวข้อต่าง ๆ ครอบคลุมถึงหลักการเหตุผลและวัตถุประสงค์ของการศึกษา ขั้นตอนต่าง ๆ ในเอกสาร
โครงการฯ การเก็บข้อมูล รวมทั้งความรับผิดชอบของผู้ดำเนินการศึกษาและผู้ป่วย
หน้าที่ 29 จาก 63

