Page 32 - version 4.2
P. 32

การศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียชนิดไวแวกซ์ขั้นหายขาดอย่างเหมาะสม       ฉบับที่ 4.2 วันที่ วันที่ 08 มีนาคม 2564
                  ด้วยยาทาฟีโนควินหรือไพรมาควินโดยใช้การตรวจวัดระดับเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณ ประเทศไทย

                         ผู้ดำเนินการศึกษาจะเก็บข้อมูลผู้ป่วยตามแผนการติดตามหลังการรักษาผู้ป่วย P. vivax ในวันแรกของ

                            ื่
                  การรักษาเพอเป็นข้อมูลพื้นฐาน (baseline) (โดยจะนับวันที่เริ่มให้ยารักษาเป็นวันที่ 1) และในวันที่ 5 กับวันที่ 14
                  ด้วย เป็นไปได้ว่าผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจจะไม่กลับมาตามนัด ในวันที่ 5 และ/หรือ วันที่ 14

                         รายใดที่สงสัยว่าจะมีภาวะ AHA จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลาที่รับผู้ป่วยส่งต่อซึ่งมีแพทย์

                  ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับวุฒิบัตรด้านโลหิตวิทยา และโรงพยาบาลนี้มีบริการเต็มรูปแบบในการถ่ายโลหิต การล้างไต
                  และอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ สำหรับการสอบสวนและการรักษา

                         เนื่องจากอาจมีผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะ AHA ที่อาจไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยไม่ได้แจ้งมายัง
                  โครงการฯ เมื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่าโรงพยาบาลในจังหวัดยะลาที่ร่วมโครงการฯ และโรงพยาบาลศูนย์ยะลาคงต้อง

                  ได้พบผู้ป่วย AHA ทุกรายเพราะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของโครงการฯ จะทำ

                  การตรวจคัดกรองรายงานการรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามว่าอาจมีผู้ป่วยใน

                  โครงการนี้ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการแสดงของ AHA ไตวาย หรือรับการถ่ายโลหิต
                         โครงการศึกษานี้จะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ (ภาพที่ 1 และภาคผนวก 1 แผนภูมิการรับผู้ป่วยเข้าร่วม

                  โครงการและขั้นตอนการศึกษา):
                         -  ระยะที่ 1 (นานประมาณ 3 เดือน) :จะดำเนินงานที่สถานบริการสาธารณสุขระดับสูงกว่า

                             (คือโรงพยาบาล) 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลที่อำเภอ ธารโต ยะหา กรงปีนัง และกาบัง จะมีการ

                             ฝึกอบรมและการจัดหาอุปกรณ์ตรวจเอนไซม์ G6PD ให้โรงพยาบาลดังกล่าว
                         ภายหลังจากที่ได้รับผู้ป่วยอายุ ≥16 ปี ไปจำนวน 40 ราย จะทำการวิเคราะห์ผลเบื้องต้นระหว่างการ

                  ดำเนินโครงการฯ (interim analysis) เพื่อตัดสินใจว่าควรขยายงานไปยังสถานบริการสาธารณสุขที่ต่ำกว่า (คือ
                  มาลาเรียคลินิก) ได้หรือไม่ โดยคณะกรรมการอิสระที่กำกับดูแลโครงการศึกษา (Independent Study Oversight

                  Committee – ISOC) จะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจเรื่องนี้ โดยอาศัยผลของการวิเคราะห์ระหว่างการดำเนิน
                  โครงการฯ และปัจจัยอื่นตามเหมาะสม การจัดตั้งคณะกรรมการฯ นี้ และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินใจของ

                  กรรมการ จะถูกกำหนดโดยกองโรคติดต่อนำโดยแมลงร่วมกับ MMV (ดูตอนที่ 14.3)

                         ถ้าการวิเคราะห์ผลระหว่างการดำเนินโครงการในระยะที่ 1 แสดงว่าผลไม่เป็นที่น่าพอใจ คณะกรรมการฯ
                  ชุดนี้อาจจะพิจารณาไม่ขยายงานไปยังสถานบริการระดับต่ำกว่า (มาลาเรียคลินิก) ก็ได้ จนกว่าจะมีการปรับปรุงใน

                  โครงการฯ ให้ความรู้ และ/หรือ มีการสนับสนุนบุคลากรที่ให้บริการด้านสาธารณสุข อาจต้องทำการวิเคราะห์ผล
                  ระหว่างการดำเนินการของโครงการฯ เพิ่มเติมได้อีกตามความเหมาะสม

                         -  ระยะที่ 2 (นานประมาณ 9 เดือน) : หากคณะกรรมการอิสระที่กำกับดูแลโครงการฯ อนุมัติ ก็จะไป

                             เริ่มดำเนินโครงการระยะที่ 2 โดยขยายงานไปยังสถานบริการระดับต่ำกว่า (มาลาเรียคลินิก) 2 แห่ง
                             ซึ่งอยู่ห่างจากสถานบริการสาธารณสุขระดับสูงกว่าที่มีบริการการแพทย์ฉุกเฉินชนิดครบถ้วน







                                                                                                    หน้าที่ 32 จาก 63
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37