Page 31 - version 4.2
P. 31

การศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียชนิดไวแวกซ์ขั้นหายขาดอย่างเหมาะสม       ฉบับที่ 4.2 วันที่ วันที่ 08 มีนาคม 2564
                  ด้วยยาทาฟีโนควินหรือไพรมาควินโดยใช้การตรวจวัดระดับเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณ ประเทศไทย


                  7.  รูปแบบโครงการ และการวางแผนการวิจัย
                         โครงการนี้เป็นการศึกษาระยะยาว ในลักษณะดำเนินไปข้างหน้า โดยวิธีสังเกต และทำศึกษาใน
                  สถานพยาบาลหลายแห่งพร้อมกัน โดยจะศึกษาผู้ป่วยมาลาเรียที่มีเชื้อชนิด P. vivax

                         จะดำเนินการศึกษาในสถานที่ให้บริการรักษา และติดตามผู้ป่วยมาลาเรีย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในหน่วย

                  บริการทุกแห่งที่ร่วมโครงการฯ จะได้รับการฝึกอบรมวิธีการตรวจเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณ และการรักษาขั้น
                                                                                                            ึ
                  หายขาดตามระบบการรักษาของกองโรคติดต่อนำโดยแมลง โดยใช้อุปกรณ์ประกอบการสอนเป็นสิ่งพิมพ์สุขศกษา
                  ซึ่งตั้งใจจะนำมาใชัตอนที่จะเริ่มใช้ TQ ในประเทศไทยในวงกว้าง ตามแผนการอบรมและโครงสร้างหลักสูตรตาม

                  ภาคผนวก 2
                         ผู้ป่วยแต่ละรายหรือผู้แทนตามกฏหมายจะต้องลงนามในใบยินยอม (แบบใบยินยอม ในภาคผนวก 3)

                  ซึ่งแสดงว่าผู้ป่วยยินยอมเขาร่วมในการศึกษา โดยได้พิจารณาว่าผู้ป่วยจะได้รับยา TQ ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยนั้น ๆ มีระดับ
                                        ้
                  เอนไซม์ที่เหมาะสม และอนุญาตให้ผู้ดำเนินการศึกษาใช้ข้อมูลซึ่งไม่ระบุตัวบุคคลไปเพอการวิเคราะห์ได้ ผู้ป่วยที่มี
                                                                                         ื่
                  อายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ปกครองตามกฏหมายจะเป็นผู้ลงนามในใบยินยอมแทนผู้ป่วย ผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับ

                  แบบใบเห็นพ้องไว้เป็นหลักฐานด้วย
                       จะมีการพัฒนาขั้นตอนวิธีมาตรฐานในการดำเนินการ (SOP) เพื่อสอบสวนผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อ

                  การเกิดภาวะโลหิตจางเฉียบพลันจากเม็ดเลือดแดงแตก (AHA) และคำแนะนำในการบำบัดเบื้องต้นและการส่งต่อ

                  ผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยส่งต่อ (ภาคผนวก 4)
                         กองโรคติดต่อนำโดยแมลงจะกระจายเครื่องตรวจเอนไซม์ G6PD และยาทาฟีโนควิน (Tafenoquine,

                  TQ) ไปยังสถานบริการสาธารณสุขในโครงการฯโดยใช้ระบบปกติที่ใช้กระจายยาและวัสดุที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค
                  ส่วนยา PQ และยารักษามาลาเรียชนิดอื่นเป็นยาที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย

                         ในช่วงทำการศึกษา ผู้ดำเนินการศึกษาจะรับผู้ป่วยทุกรายซึ่งมีลักษณะเข้าหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ป่วย

                                  ื่
                  เข้าในโครงการฯเพอลงทะเบียนไว้ในการศึกษา ผู้ป่วยจะได้รับคำปรึกษาเรื่องการรักษามาลาเรียชนิดเชื้อ P. vivax
                  ด้วยยา TQ หรือ PQ และอาการไม่พึงประสงค์ โดยใช้เอกสารชี้แจงผู้ป่วย (ภาคผนวก 5)
                         การศึกษานี้จะไม่มีการไปเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ ไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติ

                  ตามปกติเกี่ยวกับการจ่ายยา หรือแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยนอกเหนือจากที่ระบุไว้เกี่ยวกับการรักษาขั้น
                  หายขาดโรคมาลาเรียชนิดเชื้อ P. vivax

                         เจ้าหน้าที่จะนัดให้ผู้ป่วยด้วยเชื้อชนิด P. vivax กลับมาเพื่อติดตามผลการรักษาในวันที่ 5 (อนุญาตให้
                  ติดตามได้ระหว่างวันที่ 4-6) และ วันที่ 14 (อนุญาตให้ติดตามได้ระหว่างวันที่ 13-16) ของการศึกษา (ทั้งนี้ในทุก

                  หัวข้อของการติดตามผู้ป่วยในโครงการนี้จะประยุกต์ใช้ช่วงเวลาการติดตามตามที่ระบุนี้ทั้งหมด) ซึ่งเป็นการนัดตาม

                  นโยบายการติดตามผู้ป่วยตามปกติทั้งประเทศ (วันที่ 14) และเป็นการนัดตามปกติของจังหวัดยะลา (วันที่ 5
                  และ วันที่ 14) เฉพาะผู้ป่วยมาลาเรียที่มีเชื้อชนิดไวแวกซ  ์




                                                                                                    หน้าที่ 31 จาก 63
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36