Page 9 - โครงงาน เรื่อง การศึกษากลวิธีการตั้งชื่อและความหมายของชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา
P. 9

3


                                                         บทที่ 2

                                             เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง


                       ในการท าโครงงานภาษาไทยเรื่อง การศึกษากลวิธีการตั้งชื่อและความหมายของชื่อนักเรียนชั้น

               มัธยมศึกษาปีที่ 6/1โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา คณะผู้จัดท าได้รวบรวมข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษา

               บาลีภาษาสันสกฤต และความหมาย ในการตั้งรายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 และวิธีการหาร้อยละ
               ในทางคณิตศาสตร์มาใช้ เพื่อให้ทราบถึงภาษาบาลีเเละภาษาสันสกฤตของชื่อนักเรียนต่อจ านวนทั้งหมดว่ามี

               การน ามาใช้ร้อยละเท่าใด ซึ่งมีข้อมูลดังนี้

                       1.  ภาษาบาลี
                           1.1 ที่มาของภาษาบาลี

                           1.2 ความหมายของภาษาบาลี

                           1.3 หน่วยเสียงในภาษาบาลี
                        2.  ภาษาสันสกฤต

                           2.1 ที่มาของภาษาสันสกฤต

                           2.2 ความหมายของภาษาสันสกฤต
                           2.3 วิธีสังเกตค าสันสกฤต

                        3.  ความหมายของการตั้งชื่อ

                        4.  รายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศกษาปีที่ 6/1 จากโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา
                                                 ึ

               1.ภำษำบำลี

                       1.1 ที่มำของภำษำบำลี

                              ผู้ที่เข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมนี้ ส่วนใหญ่เป็นพระภิกษุสามเณรผู้มีศรัทธาที่ได้เข้ามา
               บรรพชาอุปสมบทในพระพทธศาสนา บุคคลที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วมีภารกิจที่ต้องท าสองประการ
                                     ุ
               คือ ประการแรก ได้แก่ คันถธุระ การศึกษาพระธรรมวินัยซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้ การศึกษาชนิดนี้เน้น

               ภาคทฤษฎี และประการที่สอง คือ วิปัสสนาธุระ การเรียนพระกรรมฐานโดยเน้นลงไปที่การปฏิบัติทางกาย
               วาจาและใจ

                              ส าหรับการศึกษาที่เรียกว่า “คันถธุระ” นั้น ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่นั้น

               พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนสาวกเป็นประจ าทุกวันด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา ค าสั่งสอนที่พระพุทธเจ้าทรง
               แสดงนั้น ทรงแสดงด้วยพระโอฐตามที่พระองค์จะทรงโปรดประทานพระสัทธรรมเทศนาแกพุทธบริษัทซึ่งมีเป็น
                                                                                          ่
               ประจ าทุกวัน ผู้ที่ฟังก็มีทั้งพระภิกษุสงฆ์และคฤหัสถ์ ส าหรับพระภิกษุสงฆ์นั้น เมื่อได้ฟังพระสัทธรรมเทศนา

               ของพระพุทธเจ้าแล้วก็น ามาถ่ายทอดแก่สัทธิวิหาริกและอันเตวาสิกต่อกันไป การศึกษาค าสอนของ
               พระพุทธเจ้านี้เรียกว่า คันถธุระ หรือการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งมี 9 ประการ
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14