Page 13 - โครงงาน เรื่อง การศึกษากลวิธีการตั้งชื่อและความหมายของชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา
P. 13

7


                              3. ภาษาสันสกฤตผสม (Buddhist Hybrid Sanskrit หรือ Mixed Sanskrit)พบในราว 4

               ศตวรรษก่อนคริสตกาล โดยมากใช้บันทึกคัมภีร์พุทธศาสนา ฝ่ายมหายาน มีลักษณะโครงสร้างหลักแบบ
               เดียวกับภาษาสันสกฤตแบบแผน แต่มีรูปแบบปลีกย่อยเพิ่มเติม มีรูปศัพท์หลายรูปที่คล้ายกับบาลี และ

               แตกต่างจากสันสกฤตแบบแผน จนบางครั้งเรียกว่าภาษาสันสกฤตแบบไม่สมบูรณ์ (Broken) เช่น ภิกฺโษสฺ (ของ

               ภิกษุรูปหนึ่ง) ในภาษาสันสกฤตแบบแผน (อุ การานต์), แต่ภาษาสันสกฤตผสมอาจใช้ ภิกฺษุสฺย (โดยใช้แนว
                                                                                         ุ
               เทียบกับอะการานต์) เป็นต้น. ภาษาสันสกฤตผสมจึงไม่มีแบบแผนที่ตายตัว วรรณคดีในพทธศาสนาที่ใช้ภาษา
               สันสกฤตแบบแผนก็มี เช่น งานเขียนอัศวโฆษ หรือนาคารชุน

                              ภาษาสันสกฤตผสม(Buddhist Hybrid Sanskrit or Mixed Sanskrit) เป็นภาษาสันสกฤตที่
               นักวิชาการบางกลุ่มได้จัดไว้เป็นพิเศษ เนื่องจากมีความแตกต่างจากภาษาพระเวทและภาษาสันสกฤตแบบแผน

               (ตันติสันสกฤต) ภาษาสันสกฤตแบบผสมนี้คือภาษาที่ใช้บันทึกวรรณคดีสันสกฤตทางพระพุทธศาสนาทั้งใน

               นิกายสรรวาสติวาทและมหายานภาษาสันสกฤตชนิดนี้คาดว่าเกิดขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๓-๔ นักปราชญ์บาง
               ท่านถือว่าเกิดขึ้นร่วมสมัยกับตันติสันสกฤต คือในปลายสมัยพระเวทและต้นของยุคตันติสันสกฤต โดยปรากฏ

               อยู่โดยส่วนมากในวรรณกรรมของพระพุทธศาสนามหายาน อาทิ พระสูตรเช่นลลิตวิสฺตรลงฺกาวตาร

               สูตฺรปฺรชฺญาปารมิตา สทฺธรฺมปุณฺฑรีกสูตฺรและศาสตร์อันเป็นค าอธิบายหลักพทธปรัชญาและตรรกวิทยาเช่น มธฺ
                                                                              ุ
               ยมิกการิกา อภิธรฺมโกศ มหาปฺรชฺญาปารมิตาศาสฺตฺรมธฺยานฺตานุคมศาสฺตฺร เป็นต้น

                       2.3 วิธีสังเกตค ำสันสกฤต

                              1. พยัญชนะสันกฤต มี 35 ตัว คือ พยัญชนะบาลี 33ตัว + 2 ตัว  คือ ศ, ษ  ฉะนั้นจึงสังเกต
               จากตัว ศ, ษ  มัก จะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น กษัตริย์ ศึกษา เกษียร พฤกษ์ ศีรษะ เป็นต้น

               ยกเว้นค าไทยบางค าที่ใช้เขียนด้วย   พยัญชนะทั้ง 2 ตัวนี้ เช่น  ศอก  ศึก  ศอ  เศร้า  ศก ดาษ  กระดาษ

               ฝรั่งเศส  ฝีดาษ  ฯลฯ
                              2. ไม่มีหลักการสะกดแน่นอน  ภาษาสันสกฤต ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ข้ามวรรคกันได้ ไม่

               ก าหนดตายตัว เช่น  อัปสร  เกษตร  ปรัชญา  อักษร เป็นต้น

                              3. สังเกตจากสระ สระในภาษาบาลี มี  8  ตัว  คือ  อะ  อา  อิ  อี  อุ  อู  เอ  โอ  ส่วน
               สันสกฤต คือ สระภาษาบาลี  8 ตัว +  เพิ่มอีก 6  ตัว  คือ สระ ฤ  ฤา ภ ภา   ไอ  เอา  ถ้ามีสระเหล่านี้อยู่และ

               สะกดไม่ตรงตามมาตราจะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น ตฤณมัย ไอศวรรย์ เสาร์  ไปรษณีย์  ฤาษี  คฤหาสน์ เป็นต้น

                              4.สังเกตจากพยัญชนะควบกล ้า ภาษาสันสกฤตมักจะมีค าควบกล ้าข้างท้าย เช่น จักร  อัคร
               บุตร  สตรี  ศาสตร์  อาทิตย์  จันทร์ เป็นต้น

                              5.สังเกตจากค าที่มีค าว่า “เคราะห์” มักจะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น เคราะห์ พิเคราะห์

               สังเคราะห์  อนุเคราะห์  เป็นต้น
                              6. สังเกตจากค าที่มี  “ฑ”  อยู่  เช่น จุฑา กรีฑา ครุฑ มณเทียร จัณฑาล เป็นต้น

                              7.สังเกตจากค าที่มี  “รร”  อยู่ เช่น สรรค์  ธรรม์  วรรณ บรรพต ภรรยา บรรณารักษ์

               มรรยาท กรรม ทรรศนะ สรรพ เป็นต้น
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18