Page 11 - โครงงาน เรื่อง การศึกษาภาษาลูจากสื่อ YOUTUBE
P. 11
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ื่
้
ื่
ในการทาโครงงานเรอง การศึกษาการใชภาษาลูจากสอ YouTube
็
้
ี่
้
้
้
ี
้
ู
ี่
คณะผูจัดทาไดศึกษาเอกสารและงานวิจัยทเกยวของ โดยจาแนกเปนความรหลักๆไดดังน้
1.งานวิจัยที่ผ่านมาเกี่ยวกับ YouTube
2.แนวคิดเรื่องภาษากับสังคมและวัฒนธรรม
3.ภาษาเฉพาะ
4.อิทธิพลของสื่อออนไลน์ที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค
5.แนวคิดเกี่ยวกับภาษาลู
งานวิจัยที่ผ่านมาเกี่ยวกับ YouTube
จากการศึกษาของ (พัชรภรณ์ ไกรชุมพล, 2556) เรื่อง “ทัศนคติและพฤติกรรมการ
สื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการสร้างชื่อเสียง กรณีศึกษายูทูป (Youtube)” พบว่า ผู้คน
ส่วน ใหญ่มีทัศนคติต่อยูทูปในเชิงบวก โดยรู้สึกพงพอใจและชื่นชอบการสื่อสารผ่านเครือข่าย
ึ
สังคมออนไลน์ ยูทูป เนื่องจากมีพฤติกรรมการใช้และมีการรับรู้เข้าใจต่อยูทูปจึงส่งผลให้มี
ทัศนคติที่ดีอีกทั้งด้วยสภาพ สังคมที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับการสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคม
ออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจเรียนรู้และมีการยอมรับยูทูปเพิ่มมากขึ้น โดย
คนส่วนใหญ่มีความคาดหวังต่อยูทูปว่าสามารถเป็นเครื่องมือที่เอื้อต่อผลส าเร็จในด้านต่างๆ เช่น
การสร้างชื่อเสียง เป็นต้น กล่าวได้ ว่าสภาพสังคมและประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งในการส่งผลต่อ
ทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อยูทูปและยังส่งผลให้มีความกล้าที่จะแสดงออกมาในรูปแบบของพฤติกรรม
มากขึ้นกล่าวได้ว่า กลุ่มผู้บริโภคที่มีทัศนคติที่ดีต่อยูทูปจะแสดงพฤติกรรมการสื่อสารผ่านยูทูปมาใน
เชิงสร้างสรรค์ ดังแนวคิดทัศนคติ (Attitude) ในเรื่องทัศนคติในทางบวก (Position Attitude) ของ
(Fishbein and Ajzen, 1975) กล่าวว่า ทัศนคติที่ชักน าให้บุคคลแสดงออกหรืออารมณ์ความรู้สึกใน
ด้านดีต่อเรื่องราวและสิ่งต่างๆ เป็นพนฐานที่ดีในการยอมรับความคิดข้อมูลใหม่ ซึ่งในบางกรณีมี
ื้
ทัศนคติต่อยูทูปถึงความสามารถในการสร้างผลลัพท์ตามความต้องการ เช่น ความต้องการในด้าน
ชื่อเสียงสะท้อนออกมาในรูปแบบของคลิปวิดีโอที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภค อีกทั้ง (พชรภรณ์ ไกรชุมพล,
ั
2556) กล่าวว่า กลุ่มผู้บริโภคมีความต้องการให้ผู้ใช้งานยูทูปมีพฤติกรรมการสื่อสารยูทูปในอนาคต
อย่างเหมาะสมมากขึ้น ไม่มีพฤติกรรมส่อไปในทางลามกอนาจารหรือสร้างความเสียหายต่อบุคคล
และสังคมและควรมีการสร้างแนวทางในการใช้ยูทูปอย่างถูกต้องและมีมาตรการที่เด็ดขาดส าหรับผู้ที่
ฝ่าฝืน สอดคล้องกับงานวิจัยของ (วราภรณ์วนาพทักษ์, 2550) กล่าวว่า อนเทอร์เน็ตเป็นระบบการ
ิ
ิ

