Page 319 - 1.64
P. 319

เลื่อนตาแหน่งการงาน สญั ลกั ษณ์ของการยอมรับนบั ถือเป็นตน้ ส่วนสิ่งยวั่ ยทุ ่ีเป็นการลงโทษกเ็ ช่น การเสีย
เพื่อนฝงู เสียชื่อเสียง เสียตาแหน่ง เป็นตน้ ยงิ่ เรามีความผิดปกติไปจากกลุ่มเท่าใดแรงบีบบงั คบั ของหมมู่ ีมาก
เท่าใดหรือยงิ่ หมกู่ ลุ่มน้นั ยงิ่ เราตอ้ งการเป็นสมาชิกของหมู่ใด แรงบีบบงั คบั ของหมยู่ อ่ มมีมากเท่าน้นั หรือยง่ิ หมู่
กลุ่มตอ้ งการเรามากเท่าใดกลุ่มก็ยง่ิ ตอ้ งการใหเ้ ราปฏิบตั ิตามมาตรฐานของกลุ่มเทา่ น้นั กล่มุ ที่มีเกียรติศกั ด์ิหรือ
ศกั ด์ิศรีต่าในหมอู่ าจจะกระทาผดิ แปลกไปไดบ้ า้ ง แตย่ ง่ิ มีตาแหน่งสูงหรือศกั ด์ิศรีสูงแลว้ กระทาผดิ มาตรฐาน
เพยี งนิดเดียวแรงกดดนั ของหมจู่ ะเกิดข้นึ ทนั ทีเพือ่ ใหป้ ฏิบตั ิอยใู่ นแนว

       นอกจากน้ีแรงกดดนั ของกลมุ่ จะมีมากกค็ ือ การที่ไมม่ ีมาตรฐานอื่นที่จะปฏิบตั ิหรือมีนอ้ ยทางที่จะเลือก
หรือเราไม่มีความรู้มากมายนกั ในเรื่องน้นั บุคคลมกั จะเปลี่ยนความคดิ เห็นหรือเจตคติหากกลมุ่ ของเขาท่ียดึ
อยเู่ ปลี่ยนแปลงไป ตวั อยา่ งเช่น กรรมกร แรกๆอาจไม่สนใจกนั รวมเป็นสมาคมแต่ตอ่ มาหากรู้วา่ คนอื่น ๆ ใน
กลุ่มรับฟังความคดิ เห็นน้นั เขาก็อาจเปลี่ยนความคิดยงิ่ กลุ่มมีความเป็นเอกภาพเทา่ ใดแรงกดดนั ของกลุ่มยง่ิ มีผล
เท่าน้นั เร่ืองอานาจของความกดดนั ของกลุม่ อนั มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงน้นั อาจจะเป็นไปได้ 4 กรณีคือ

           1.1 เราอาจปฏิเสธบรรทดั ฐานของกลมุ่ และยดึ มนั่ ในเจตคติของเราและเราอาจจะกา้ วร้าวยง่ิ ข้ึน
หากเราเชื่อวา่ กล่มุ ไมม่ ีผลบีบบงั คบั เรามากนกั หรือเรามีความภกั ดีต่อกลมุ่ อ่ืนมากกวา่

           1.2 เราอาจจะไมเ่ ปล่ียนแปลงตอ่ เจตคติของเราแต่เราปฏิบตั ิตามกลมุ่ เพราะเหตผุ ลภายนอกอยา่ ง
อื่นโดยถือวา่ เป็นส่วนตวั และเราไม่เห็นดว้ ยแต่ส่วนรวมทาเช่นน้นั ก็ตอ้ งปฏิบตั ิตาม

           1.3 เราอาจยอมรับบรรทดั ฐานของกลุ่มเพียงผวิ เผิน ภายในส่วนลึกของจิตใจเราไม่ยอมเปล่ียนแต่
พอเราออกไปอยกู่ ล่มุ อ่ืนเราจะไดเ้ ห็นวา่ เราเปลี่ยนแปลงเป็นอยา่ งอื่น

           1.4 เราอาจจะนาเอาบางส่วนของบรรทดั ฐานของกลุม่ มาผนวกกบั ความเช่ือของเราและปฏิเสธ
บางส่วน

          2. ประสบการณ์ท่ีน่าพึงพอใจหรือไม่น่าพึงพอใจ เราอาจเปลี่ยนแปลงเจตคติไปไดเ้ ม่ือไดร้ ับ
ประสบการณ์ท่ีน่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ เช่น นายแดงเขา้ ทางานบริษทั หน่ึงเพราะเขาเชื่อวา่ จะมีความกา้ วหนา้
แต่พบวา่ หวั หนา้ ของเขาเป็นคนข้ีอิจฉาเมื่อเขาเกิดเสนอความคดิ เห็นดีๆเพื่อปฏิบตั ิหวั หนา้ อาจจะเห็นวา่ การ
เสนอแนะของเขาเช่นน้นั ทาใหฐ้ านะของเขาสัน่ คลอนและนอกจากน้นั ยงั ทราบดีวา่ เพ่ือนร่วมงานของเขาไป
ฟ้องแก่หวั หนา้ งานบ่อยๆเขาจึงอาจเปล่ียนเจตคติไปอีกแบบหน่ึงคือมองไม่เห็นความกา้ วหนา้ ในการทางานกบั
บริษทั น้ี เช่นน้ีเป็นตน้

       3. อิทธิพลของกลมุ่ บคุ คลท่ีมีชื่อเสียง บุคคลท่ีมีช่ือเสียงในความหมายน้ีอาจจะเป็นเพ่ือนซ่ึงเรานบั ถือ
ความคดิ ของเขาหรืออาจจะเป็นผเู้ ชียวชาญทางดา้ นความพิเศษต่างๆ ตวั อยา่ งท่ีเห็นไดช้ ดั ในเรื่องน้ีก็คือ การ
โฆษณา ซ่ึงมกั จะใชค้ นมีช่ือเสียงไปยงุ่ เก่ียว เช่น ดาราภาพยนตร์ช่ือดงั คนน้นั ใชส้ บยู่ ห่ี อ้ น้นั ๆ เป็นตน้

       เจตคติเป็นความรู้สึกของบคุ คลท่ีมีตอ่ สิ่งต่าง ๆ อนั เป็นผลเนื่องมาจากการเรียนรู้ ประสบการณ์ และ
เป็นตวั กระตุน้ ใหบ้ ุคคลแสดงพฤติกรรมหรือแนวโนม้ ที่จะตอบสนองต่อส่ิงเร้าน้นั ๆ ไปในทิศทางหน่ึง อาจ
เป็นไปในทางสนบั สนุนหรือคดั คา้ นกไ็ ด้ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ขบวนการการอบรมใหก้ ารเรียนรู้ระเบียบวิธีของ
สังคม ซ่ึงเจตคติน่ีจะแสดงออกหรือปรากฏใหเ้ ห็นชดั ในกรณีที่ส่ิงเร้าน้นั เป็นส่ิงเร้าทางสงั คม
   314   315   316   317   318   319   320   321   322   323   324