Page 69 - นาวิกศาสตร์ เดือน ธันวาคม ๒๕๕๔
P. 69
ป่าโมกไปทางสุพรรณบุรี ทางบ้านสามโก้ ข้ามลำน้ำ เปรียบที่ฝ่ายตนมีกำลังพลมากกว่าเป็นอันมาก
สุพรรณ ที่ท่าท้าวอู่ทอง ไปตั้งค่ายหลวงที่ตำบล เข้าบดขยี้ละลายทหารไทยให้แตกพ่ายเสียใน
หนองสาหร่าย ริมลำน้ำท่าคอยเมื่อวันขึ้น ๑๔ ค่ำ คราวเดียว และถ้าได้ท่วงที ก็ไล่ติดตามโจมตีเข้ายึด
เดือนยี่ ตรงกับวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๑๓๕ กรุงศรีอยุธยาเอาไว้เสียเลย เป็นการเผด็จศึกรวดเดียว
ก่อนพญาช้างสารจะชนกัน เอาให้ได้ทั้งคนทั้งเมือง กะเล่นได้เสียในคราวเดียว
ฝ่ายพม่าพระมหาอุปราชา เดินทัพอย่างช้า ๆ จะได้กลับไปเล่นสงกรานต์ที่กรุงหงสาวดี ได้ทันใน
ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทเหมือนคราว ต้นปีหน้า (เมษายน พ.ศ.๒๑๓๖)
พ.ศ.๒๑๓๓ ด้วยได้บทเรียนไปครั้งหนึ่งแล้ว ไม่พบ ฝ่ายไทยเมื่อทัพหลวงถึงหนองสาหร่ายแล้ว
ทัพไทยระหว่างทาง จึงเดินกระบวนทัพล่วงเข้ามาถึง สมเด็จพระนเรศวรก็มีรับสั่งให้กองทัพของพระยาศรี
ตำบลตระพังตรุ แขวงเมืองสุพรรณบุรี ห่างจากค่าย ไสยณรงค์ กับ พระยาราชฤทธานนท์ ซึ่งวางกำลัง
ทัพไทยของพระยาศรีไสยณรงค์ ประมาณทางเดินเท้า ขัดตาทัพอยู่ก่อนแล้ว ให้เคลื่อนกำลังไปยังดอน
๓ วัน แล้วจึงให้แม่กองมอญ ๓ คน สมิงจอคราน ระฆัง และให้ส่งหน่วยลาดตระเวนออกไปให้ทราบ
สมิงเป่อ และสมิงซาม่วน คุมทหารม้าชาวมอญ ข่าวการเคลื่อนไหวของกองทัพใหญ่พม่า
๓๐๐ คน ออกลาดตระเวนสืบข่าวของฝ่ายไทย แล้วให้จัดขบวนรบ เตรียมรับศึก เพราะกองทัพ
ถึงตำบลเอกราช บางกระทิง แขวงกรุง ได้ข่าวว่า ทั้ง ๒ ฝ่าย เคลื่อนเข้ามาใกล้กันมากแล้ว ไม่นาน
สมเด็จพระนเรศวร เป็นจอมทัพ เสด็จออกไปเอง เกินรออีก ๒ – ๓ วัน ต้องได้รบกันแน่นอน
มีกำลังพลแค่แสนคนเศษ ๆ พระมหาอุปราชา กองทัพไทยของสมเด็จพระนเรศวร จัดขบวน
ปรึกษาแม่ทัพนายกองของตน เห็นว่าควรใช้ความได้ ทัพเป็นแบบ “เบญจเสนา” หรือที่เรียกว่าห้าทัพเมื่อ
ภาพทัพของพระเจ้าหงสาวดีช้างเผือก
๐68 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔

