Page 72 - นาวิกศาสตร์ เดือน ธันวาคม ๒๕๕๔
P. 72
ศึกยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชา
จ่ารงมณฑลนกสับ ตระแบงแถว ดาบโล่ ๔๐๐ ดาบ อย่างมั่นอกมั่นใจ
ดาบดั้ง ๔๐๐ มหายุทธหัตถี
มางจาชะโร พระพี่เลี้ยง พระมหาอุปราชา นั้น เดือนยี่ วันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ วันที่ ๑๗
เป็นกองหน้า ขี่ช้างพลายพัชเนียง สูง ๖ ศอก ๑ คืบ มกราคม พระยาศรีไสยณรงค์ รายงานว่าทัพพม่า
๒ นิ้ว ติดน้ำมันหน้าหลัง สมิงปราบศึก เป็นกลางช้าง เคลื่อนพ้นบ้านจระเข้สามพันมาแล้ว สมเด็จพระ
สมิงมือเหล็กเป็นควาน นเรศวร สั่งให้กองทัพเตรียมตัวรับศึกวันรุ่งขึ้น
มีช้างดั้ง ช้างกัน ช้างแทรก ช้างแซง เป็นขนัด (พรุ่งนี้ได้รบแน่)
มีพลดาบโล่ ดาบดั้ง ดาบสองมือ อย่างละ ๑,๐๐๐ ในเช้าวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๑๓๕
เป็นชั้น ๆ ออกไป แล้วมีช้างท้าวพระยาพม่ารามัญ (แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่) ทัพไทยทุกกองทัพพร้อมรบ
เกียกกาย กองหน้า และพลเดินเท้า ๒๐๐,๐๐๐ พล ประมาณ เวลา ๗.๐๐ น. ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นทาง
ม้า ๓,๐๐๐ แซงสอง ฟากทุ่ง ด้านหน้ากองทัพ สมเด็จพระนเรศวร และขุนศึกต่าง ๆ
พระมหาอุปราชา สั่งจัดทัพ เป็นสัตตเสนา ๗ แถว ในทัพหลวง ทราบว่ากองกำลังส่วนหน้า หรือ
แถวละ ๗ กอง เป็น ๔๙ กอง พร้อมพลทวยหาญ กองรักษาด่านทั่วไปหรือกองรักษาด่านรบ
ยกจากค่ายตระพังตรุ พระราชพงศาวดาร กล่าวว่า ของพระยาศรีไสยณรงค์ ได้ปะทะกับข้าศึกที่ตำบล
เสียงช้าง ม้า พลเดินเท้า สะท้านสะเทือน ดุจแผ่น ดอนเผาข้าวแล้ว กองทัพของพระยาศรีไสยณรงค์
พสุธาจะถล่ม เข้าสู้รบถึงขั้นตะลุมบอน ไม่สามารถต้านข้าศึกที่มี
ทัพกษัตริย์ขนาดใหญ่ ๒ ทัพ ที่พร้อมพรักไปทั้ง จำนวนมากมายได้ จึงแตกถอยร่นมา ทรงให้หมื่น
ช้าง ม้า พลเดินเท้า กำลังจะทำสงครามกัน พม่าจะ ทิพเสนา หมื่นราชมาตย์ เอาม้าเร็วขึ้นไปประกาศ
เอาอยุธยาเป็นเมืองขึ้น ไทยต้องการรักษาเอกราช แก่นายทัพ นายกอง และพลทหารทั้งปวง อย่าให้รอ
ของอาณาจักรตน ทัพพม่ากำลังรุกเข้าหาทัพไทย รับศึกอยู่เลย ให้เปิดลงมาทีเดียว พม่าจึงรุกไล่
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ๐71

