Page 27 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 27
ื
ื
หลักฐานในเอกสารของฝ่ายเวียดนามชี้ว่า หมักก่วส่งเคร่องราชบรรณาการไปยังกรุงเว้ และได้รับการต้อนรับอย่างด ี
�
ึ
จาก “มิญเวือง” เจ้าตระกูลเหงียน ซ่งมีนโยบายจะขยายอิทธิพลเข้ามาในกัมพูชาอยู่แล้ว ได้พระราชทานราชทินนามตาแหน่ง
�
้
ั
ื
ขุนนางตราต้ง และช่อ “ฮาเตียน” ให้เมืองท่าเฟืองแถงห์ (ฮาเตียน ในภาษาเวียดนาม หมายถึง จิตวิญญาณแห่งลานา)
�
ต่อมาชื่อนี้ได้เข้ามาแทนค�าเขมรเดิมที่เรียกมาก่อนคือ “เมืองค�า” และ “เมืองเปียม”
นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานไทย และเวียดนามยืนยันตรงกันว่า พระองค์เจ้าจุ้ย และพระองค์เจ้าศรีสังข์ ราชวงศ์
บ้านพลูหลวง ได้เสด็จหนีจากอยุธยาไปอยู่เมืองฮาเตียน หรือเมืองบันทายมาศอันเป็นเมืองท่มีคนไทยจานวนมาก
�
ี
หนีทัพอังวะไปรวมอยู่ โดยมีการบันทึกไว้ว่า
“เจ้าจุ่ย (เจ้าจุ้ย) และเจ้าสีซวาง (เจ้าศรีสังข์) รัชทายาทของกษัตริย์อยุธยาองค์สุดท้ายกับพระบรมวงศานุวงศ์
ผู้ติดตามอีกประมาณ ๑๐๐ คน เข้ามาลี้ภัยในฮาเตียนผ่านเส้นทางเลียบชายฝั่งทิศตะวันออกของอ่าวสยาม”
ั
ั
ึ
“แต่เจ้าศรีสังข์น้น บาทหลวงชาวฝร่งเศสพาหลบหนีจากฮาเตียนไปพ่งบารมีของพระนารายณ์ราชารามาธิบด ี
(นักองค์ตน) กษัตริย์เขมรที่เมืองพุทไธเพชร (บันทายเพชร-อุดงฤาชัย) ราชธานีของกัมพูชาในขณะนั้น”
ี
ี
ิ
ตามหลักฐานฯท่กล่าวถึงรัชทายาทของกษัตรย์อยุธยาองค์สุดท้าย หมายถึง พระราชวงศ์ท่ไม่ได้ถูกกวาดต้อน
ไปกรุงอังวะฯ หลังกรุงแตกคือ พระองค์เจ้าจุ้ย พระราชโอรสของเจ้าฟ้าอภัย ซ่งเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าอยู่หัว
ึ
ท้ายสระ ส่วนพระองค์เจ้าศรีสังข์น้น เป็นพระ
ั
ราชโอรสกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้ากุ้ง)
พระราชโอรสในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เจ้าเมืองฮาเตียนในขณะน้นคือ หมักเทียนต๋อ
ั
ื
รับต�าแหน่งสืบแทนบิดาคือ หมักกื่ว ใน พ.ศ. ๒๒๗๘
ได้ให้การต้อนรับพระองค์เจ้าจุ้ย และผู้ติดตาม
เป็นอย่างดี เจ้าเมืองนี้ ญวนเรียกว่าหมักเทียนตู/ตื๋อ
ื
ื
ภาษาจีนว่า หม่อเทียนซ่อ แต่มักใช้นาม “หม่อซ่อหลิน”
ในการติดต่อกับจีน ตาแหน่ งในทาเนียบของกัมพูชาเป็น
�
�
“สมเด็จพระโสร์ทศ”ส่วนตาแหน่งในสยาม
�
ื
ี
เป็นพระยาราชาเศรษฐ เน่องจากการท่ฮาเตียน ต้นฉบับสมุดไทย พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
ี
ื
ั
ส่งบรรณาการฯ ให้ท้งสยาม ญวน และเขมร เพ่อความอยู่รอดของตนแต่จะพ่งพิงญวนเป็นหลัก เม่อกรุงศรีอยุธยา
ื
ึ
เสียแก่ทัพอังวะฯ แล้ว หมักเทียนตื๋อ คิดจะขยายอ�านาจของตนเข้าไปในสยามอย่างน้อยก็เป็นบางส่วน ประกอบกับ
ั
มีเจ้านายช้นสูงแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวงอยุธยามาอยู่ในอิทธิพลของตน ย่อมจะเป็นโอกาส และถือเอาเจ้านายน้นเป็น
ั
พระเจ้าแผ่นดินของสยามต่อไป
ิ
ด้วยเหตน้จงได้อาศยพระนามของพระองค์เจ้าจุ้ยมีหนังสือไปถวายพระเจ้ากรุงจีน รายงานเหตการณ์ท่เกดข้น
ึ
ี
ั
ุ
ุ
ึ
ี
ู
ในกรุงศรีอยุธยา พร้อมท้งกล่าวโทษพระเจ้าตากสนฯ ว่าไม่ใช่รชทายาทของราชวงศ์บ้านพลหลวง เป็นเพียงแม่ทพ
ั
ิ
ั
ั
และพื้นเพยังเป็นจีนอพยพ ได้ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ซึ่งขัดกับธรรมเนียมจีนที่เน้นการสืบทอดราชบัลลังก์โดยสายเลือด
ื
ี
นอกจากน้ยังกล่าวด้วยว่าพระเจ้าตากสินฯ ไม่นับถือราชวงศ์ เพราะว่าเม่อไปตีเมืองพิมาย ได้จับกรมหม่นเทพพิพิธ
ื
ื
้
�
ี
ประหารเสียท่บางกอก (กรมหม่นเทพพิพิธ “ลูกพระสนม” ในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ซายังยกทัพไปตีกรุงกัมพูชา
อีกด้วยแต่ไม่สาเร็จ พระเจ้าแผ่นดินเขมรได้สัญญาว่าจะให้การสนับสนุนเจ้าจุ้ย และเจ้าศรีสังข์เอากรุงศรีอยุธยา
�
กลับคืนมาฯ
นาวิกศาสตร์ 25
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

