Page 49 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 49

ิ
            การทบทวนปรับแก้ไขตัวเองให้ดีย่ง เปรียบเทียบได้กับกระบวนการ Plan-Do-Check-Act หรือ PDCA วงจรบริหารงาน
                                                                                            ี
            คุณภาพ อันประกอบไปด้วยการวางแผน-ปฏิบัติ-ตรวจสอบ-และปรับปรุง โดยเป็นกระบวนการท่ใช้ปรับปรุง
                 �
                                                      ื
            การทางานขององค์กรอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพ่อพยายามแก้ปัญหาในทุกระดับ โดยปรับกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา
            เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืนนั่นเอง
            บทที่ ๓ มรดกจากบทเพลงพระนิพนธ์ “เพลงเดินหน้า”
                                                   เพลงเดินหน้า
                                           … เกิดมาทั้งที มันก็ดีอยู่แต่เมื่อเป็น
                                             อีกสามร้อยปี ก็ไม่มีใครจะเห็น
                                       ใครจะนึกใครจะฝัน เขาก็ลืมกันเหมือนตัวเล็น

                                         นานไปเขาก็ลืม ใครหรือจะยืมชีวิตให้เป็น
                                               ใครจะเห็นก็เห็นแต่น�้าใจ
                                          จ�าได้แต่ชื่อ ว่าตัวเราคือทหารเรือไทย
                                         ตายแต่ตัว ชื่อยังฟุ้ง ทั่วทั้งกรุงก็ไม่ลืมได้
                                            ทั้งเซาธ์ ทั้งเวสต์ ทั้งนอร์ธ ทั้งอีสต์
                                          จะคิดถึงตัวเราใย จะต้องตายทุกคนไป
                                              ส่วนตัวเราตาย ไว้ยืนแต่ชื่อ
                                     ให้โลกทั้งหลายเขาลือ ว่าตัวเราคือทหารเรือไทย …
                                                                                   ื
                คุณค่าในเชิงวรรณศิลป์จากความเห็นของ ผศ.ดร.รังสิพันธุ์ แข็งขัน ผู้วิจัยวิทยานิพนธ์เร่อง “การศึกษาบทเพลง
            ทหารเรือในพระนิพนธ์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กล่าวไว้ว่า
                “… ถ้าเราจะพิจารณาในแง่สุนทรียภาพจากเพลงพระนิพนธ์ของท่าน จะเห็นว่ามีพระปรีชาสามารถในทางกวี หรือ
            ในทางวรรณศิลป์ เช่น บทเพลง “เดินหน้า” มีท่อนหนึ่งที่น่าสนใจคือ “ดีเคยพบ ชั่วเคยเห็น จนเคยเป็น มีเคยได้”
                                                       ั
                                  ี
                                          �
                                        �
                                                   ี
            ถ้าเราพิจารณา ๔ วลีท่ว่าน้ น่คือการนาสานวนไทยท่ว่า “ช่วดีมีจน” มาใช้ร่วมกับวลีว่า “เคยพบเคยเห็นเคยเป็นเคยได้”
                             ี
                                ี
                     ี
                                                     ี
                                                                                  ี
                                                                       ี
                                                                ี
                                                                              ี
                                     ี
            หรือ “วันน้เคราะห์ดี พอถึงพรุ่งน้จะเป็นอย่างไร” คือท่บอกว่า “วันน้ยอ พรุ่งน้ด่า ไม่ใช่ข้ข้าข้ปากของใคร” ก็แปลได้ว่า
                                �
            พระองค์ท่านอาจจะทรงนาหลักธรรมในการไม่ยึดติด และการปล่อยวาง เอามาประยุกต์ใช้ในการดาเนินพระชนม์ชีพ
                                                                                       �
            ของท่าน และถ่ายทอดให้ผู้รับฟังไปพิจารณาในหลักธรรมข้อนี้ด้วย”
                “เกิดมาทั้งที มันก็ดีอยู่แต่เมื่อเป็น  อีกสามร้อยปี ก็ไม่มีใครจะเห็น” และ “ส่วนตัวเราตาย ไว้ยืนแต่ชื่อให้โลก
            ทั้งหลายเขาลือ ว่าตัวเราคือทหารเรือไทย”
                                                                            �
                                             ั
                ข้อความในบทเพลงน้มีความหมายท้งในแง่วรรณกรรม และหลักธรรมการทาความดีหากจะเปรียบเทียบแล้ว
                                 ี
            มีความสอดคล้องกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
            บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เม่อ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๐๖ ท่ว่า
                                                                                                   ี
                                                                            ื
            “การท�าความดีคือ การปิดทองหลังพระ” ดังนี้
                                                                   ่
                                                                      ิ
                                                        ็
                                                                   ี
                                         ่
                                         ื
                              ั
                                    ้
                                    ั
                “การปิดทองหลงพระนน เมอถงคราวจาเป็นกต้องปิด ว่าทจรงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทอง
                                                  �
                                           ึ
                                       ี
                       ั
                                                    ุ
                                                                                             ั
                                            ็
                                                                                  ี
            หลงพระกนนก เพราะนึกว่าไม่มใครเหน แต่ถ้าทกคนพากนปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มใครปิดทองหลงพระเลย
               ั
                                                            ั
                    ั
            พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้”
                จึงสามารถสรุปได้ว่า “วรรณศิลป์สไตล์กรมหลวงชุมพรฯ” คือ การสอดแทรกแง่คิดคาสอนจากค่านิยม
                                                                                       �
                                                                                    นาวิกศาสตร์   47
                                                                                    ปีที่ ๑๐๔  เล่มที่ ๑๒  ธันวาคม ๒๕๖๔
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54