Page 44 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 44
“พระองค์ท่านทรงให้ความเป็นกันเองกับทหารเรือทุกคน เพราะทรงเห็นว่าทหารเรือก็คือลูกหลานของพระองค์
ดังนั้น เพื่อให้ไม่เกิดความห่างไกลกันจึงทรงให้เรียกพระองค์ท่านว่า “เตี่ย” ซึ่งเป็นค�าจีนที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี และ
ึ
�
ี
�
ื
ทาให้เกิดความใกล้ชิดกันมากข้นค่ะ เม่อทหารเรือเรียกพระนามพระองค์ท่านว่าเต่ยก็จึงเติมคาว่าเสด็จนาหน้าด้วย
�
ต่อมาคนทั่วไปก็จึงเรียกพระนามพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” ไปโดยปริยาย”
่
่
ี
ื
ั
ื
ั
ี
ู
ื
ี
ั
ิ
็
ู
ึ
ั
ั
่
และด้วยลกษณะนสยของพระองค์ท่านผ้เปรยบเสมอนพ่อ หรอเสดจเตยทรกเหล่าทหารเรอดงพ่อกบลก จงม ี
ั
เร่องเล่าถึงพระกรุณาต่อทหารเรือในทุกระดับช้น เช่น เร่องการจัดต้งกิจการฌาปนกิจกองทัพเรือ ตามจดหมาย
ื
ื
ั
หลวงรักษาราชทรัพย์ (รักษ์ เอกะวิภาต) ลง ๑๕ ธันวาคม ๒๔๙๖ ดังนี้
“พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสด็จไปตรวจดู
ั
ิ
เรือราชพิธีท่โรงเก็บเรือคลองบางกอกน้อย คร้นเวลาเสด็จกลับผ่านมาทางหลังป่าช้าวัดระฆังโฆสิตาราม ถนนบ้านขม้น
ี
็
มงานเผาศพ เรอตรี แพ เสดจในกรมฯ เหนศพตงอยู่เชิงตะกอนอย่างสามญชนมทหารและญาติ ๑๐ กว่าคน
ั
ี
ี
็
้
ั
ื
ทรงพิจารณาอยู่รู้สึกเศร้าสลดพระทัยจึงสั่งห้ามยังไม่ให้เผา และทรงเขียนค�าสั่งด้วยดินสอลงบนกระดาษให้ เรือตรี เล่
คนใช้ของเสด็จในกรมฯ ไปให้เจ้าหน้าท่ต่าง ๆ มีใจความว่า ๑) ให้กองพันพาหนะจัดเต็นท์มากาง เอาเก้าอ้มาต้ง
ี
ี
ั
่
ี
้
ื
ื
่
ื
่
้
ื
ั
ื
ุ
�
ั
้
๒) ใหกองตงเครอง กรมพสด จดนารอนนาชา และเครองดมมาเลยง ๓) ใหนายทหาร และพลทหารในเรอรบ เรอชวยรบ
้
่
ั
้
้
�
้
ที่ไม่ได้อยู่เวรมาร่วมพิธีศพ ๔) ให้กองพันจัดทหาร และแตรเป็นกองเกียรติยศไปเป่า และเคารพศพเวลาเผา”
ั
วันน้นงานศพของ เรือตรี แพ จึงเป็นงานศพท่มีเกียรติยศ มีทหารไปร่วมงานเต็มวัด โดยมีเสด็จในกรมฯ
ี
ึ
ทรงเป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ แล้วเสด็จกลับ ในวันต่อมาทรงอนุญาตให้ต้งแผนกการกุศลฌาปนกิจข้นใน
ั
ราชนาวิกสภาอีกแผนกหน่ง และโปรดเกล้าฯ ให้ต้งแผนกการกุศลฌาปนกิจ จึงถือได้ว่าการฌาปนกิจสงเคราะห์
ั
ึ
ั
แห่งราชนาวีกาเนิดข้นต้งแต่วันน้นเป็นต้นมา โดยเสด็จในกรมฯ ทรงเป็นสมาชิกหมายเลข ๑๕ ต่อมาได้มีการตรา
ั
�
ึ
กฎหมายเป็นพระราชบัญญัติฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗ และปัจจุบันมีการแก้ไขเป็นพระราชบัญญัต ิ
การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
ภาพที่ ๔ “หมอพร”
นอกจากพระกรุณาธิคุณที่มีต่อกองทัพเรือแล้ว พระกรุณาที่มีต่อประชาชนผู้ได้รับความเจ็บป่วย ผู้ยากจน และ
คนในทุกหมู่เหล่า ท�าให้พระองค์ได้รับความนับถือยกย่องในฐานะ “หมอพร” อีกด้วย โดยเสด็จในกรมฯ ได้ไปศึกษา
ั
วิชาแพทย์แผนโบราณจากหัวหน้าหมอหลวงแห่งราชสานัก และได้ออกรักษาประชาชนผู้ยากไร้โดยไม่คิดท้งค่ารักษา
�
ั
ื
และค่ายา โดยเปิดวังของพระองค์เป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ บางคร้งพระองค์ก็ทรงนุ่งโสร่งแดง ไม่ใส่เส้อ มีผ้าขาวม้า
ื
พาดบ่าออกรักษาคนไข้ ทรงตรวจโรคด้วยเคร่องมือสมัยใหม่มีการตรวจเลือด และใช้กล้องตรวจโรคแต่ให้ยาแพทย์แผนไทย
พระองค์ไม่ประสงค์ให้ใครเรียกว่า “เสด็จในกรมฯ” แต่โปรดให้เรียกว่า “หมอพร”
นาวิกศาสตร์ 42
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

