Page 38 - นาวิกศาสตร์ เดือน สิงหาคม ๒๕๕๔
P. 38
ยุทธศาสตร์ที่ ๑ ว่าด้วยการเพิ่มสัดส่วน แบบ Bareboat Charter ที่ใช้ในการขนส่งสินค้า
การขนส่งสินค้าทางทะเลโดยกองเรือ ระหว่างประเทศ โดยยังคงถือเป็นเครดิตภาษีในตอน
แห่งชาติ สิ้นปีตามปกติ (กำลังต่ออายุมาตรการอีก ๒ ปี)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายเส้นทางให้บริการ ๑.๑.๔ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ
และขนาดของกองเรือแห่งชาติให้มีระวางบรรทุก รายได้จากการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ
สินค้าและสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่ม ในส่วนที่ผู้ประกอบการเจ้าของเรือไทยได้รับจากการ
มากขึ้น และทำให้อัตราค่าระวางมีความเป็นธรรม ฝากระวางบรรทุกสินค้าระหว่างกัน (Slot Exchange)
มาตรการภายในยุทธศาสตร์ดังกล่าว ถูกแบ่งออกเป็น โดยสินค้าของนิติบุคคลไทยที่บรรทุกบนเรืออื่นที่
๒ ส่วน คือมาตรการระยะสั้น (มาตรการที่มีการ เป็นเรือต่างชาติ ถือว่าเป็นธุรกิจรวมหรือรายได้อัน
ั
บังคบใช้ในปัจจุบัน) และมาตรการระยะยาว (มาตรการ เกิดจากเรือไทยด้วย ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่า สิทธิระวาง
ที่คาดว่าจะส่งเสริมในอนาคต) ดังต่อไปนี้ ทั้งหมดของบริษัทเรือไทยที่มีอยู่ในกลุ่มเรือที่ทำ
ข้อตกลงทั้งหมดจะต้องไม่เกินความสามารถและ
มาตรการระยะสั้น หรือมาตรการส่งเสริม ระวางบรรทุกของเรือตนเอง
กองเรือพาณิชย์ไทยที่ใช้ในปัจจุบัน
(พ.ศ.๒๕๕๓) ๑.๒ ภาษีมูลค่าเพิ่ม
มาตรการส่งเสริมกองเรือพาณิชย์ไทยที่ใช้ใน ๑.๒.๑ เร่งดำเนินการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากภาย
ปัจจุบันมีทั้งหมด ๑๑ มาตรการ แบ่งมาตรการออก ใน ๓๐ วัน เป็น ๑๕ วัน (กรณีซื้อเรือเดินทะเล
เป็น ๒ ประเภท ได้แก่ มาตรการส่งเสริมด้านภาษี จากต่างประเทศ) นับแต่วันที่มีการยื่นแบบแสดง
จำนวน ๘ มาตรการ และมาตรการส่งเสริมที่มิใช่ รายการภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร
ภาษี จำนวน ๓ มาตรการ ดังนี้ ๑.๒.๒ ให้เจ้าของเรือไทยที่บริการขนส่งทาง
ทะเล (เรือค้าชายฝั่ง) ในราชอาณาจักรและที่ให้
๑. มาตรการส่งเสริมด้านภาษี บริการขนส่งน้ำมันจากฐานขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย
(Tax Measures) มีสิทธิเลือกขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเช่น
๑.๑ ภาษีเงินได้นิติบุคคล เดียวกับการให้บริการขนส่งโดยอากาศยานใน
๑.๑.๑ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้ ราชอาณาจักร
ที่ได้รับจากการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ
สำหรับผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลที่มีเรือไทยเป็น ๑.๓ ภาษีศุลกากร
ของตนเอง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ยกเว้นอากรนำเข้าสำหรับเรือที่มีขนาด
พ.ศ.๒๕๔๑ ๑,๐๐๐ ตันกรอสขึ้นไป มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
๑.๑.๒ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงิน ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๙ แต่สำหรับเรือสินค้า
ได้จากการขายเรือเก่าเพื่อซื้อเรือใหม่ทดแทน โดย ทั่วไปขนาด ๑,๐๐๐ ตันกรอสหรือต่ำกว่า เก็บอากร
ผู้ประกอบการต้องขายเรือเก่าก่อนซื้อเรือใหม่ และ นำเข้าในอัตรา ร้อยละ ๑๐ (จากเดิม ร้อยละ ๒๐)
ต้องนำเงินได้จากการขายเรือเก่าไปซื้อเรือใหม่ที่ ตั้งแต่วันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๖ เพื่อป้องกัน
มีอายุการใช้งานน้อยกว่าและมีขนาดระวางใหญ่กว่าเรือ ผลกระทบทางการแข่งขันที่รุนแรงกับอู่เรือไทย
ที่ขายไปภายในเวลา ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่ขายเรือ ที่ปัจจุบันเน้นการต่อและซ่อมเรือขนาดเล็ก ซึ่งรัฐ
๑.๑.๓ ลดการจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ ๑ ต้องการสนับสนุนอู่เรือให้มีขีดความสามารถทางการ
สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเล แข่งขันเพิ่มขึ้น
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ ๐37

