Page 55 - นาวิกศาศตร์ กรกฎาคม ๒๕๖๑
P. 55
ึ
ื
�
ควาบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะมีข้นเม่อ กับประเทศบริวารในยุโรปตะวันออก ความสัมพันธ์กับ
่
ุ
ึ
่
ิ
ั
ิ
�
่
ั
เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์แล้วโดยส้นเชิง เป็นต้น สหรฐอเมรกา และการลดอาวธ ซงนาไปสการพบกนของ
ู
ผลของการประชุมเป็นท่พอใจต่อประเทศใกล้เคียง นายเรแกนกับนายกอร์บาชอฟ ในวันท ๙ พฤศจิกายน
ี
่
ี
อย่าง จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่คาบสมุทรเกาหลีจะมี ค.ศ.๑๙๘๕ ที่เจนีวา สวิตเซอรแลนด์ โดยท�าความเข้าใจ
ึ
บรรยากาศสันติภาพมากข้น โดยเฉพาะอย่างย่ง จีน ท่เม่อ กันที่จะลดอาวุธนิวเคลียร์ และพบกันอีก ๒ ปีต่อมา ใน
ี
ื
ิ
ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ใกล้บ้าน และทหารสหรัฐอเมริกา วันที่ ๙ ธันวาคม ค.ศ.๑๙๘๗ สถานที่เดิมโดยทั้งสองฝ่าย
ี
ุ
ี
ื
ในเกาหลีใต้มบทบาทหรอคกคามจนน้อยลง ย่อมคลาย ลงนามในข้อตกลงลดอาวุธ แต่สถานการณ์ของสหภาพ
ความอึดอัดต่อจีนได้มาก โดยสหรัฐอเมริกาอาจถอน โซเวียตสุกงอม จนประเทศบริวารปลดแอกจากสหภาพ
ึ
�
�
ทหารออกจากเกาหลีใต้ในที่สุดก็เป็นได้ กันหมด นามาซ่งการพังทลายของกาแพงเบอร์ลินใน
่
ี
�
ั
ั
เหตุผลสาคญทเกาหลเหนืออ่อนข้อลงในครงน ี ้ ปลาย ค.ศ.๑๙๘๙ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการล่มสลาย
ี
้
ประเมินว่ามาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม กล่าว ของสหภาพโซเวียต หลงเหลือเพียงสหพันธรัฐรัสเซีย
คือ รายได้ ต่อหัว/ต่อวัน ของคนเกาหลีเหนือน้อยกว่า เท่านั้น
ี
๔ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (บีบีซ ๑๒ มิ.ย.๖๑) และ การพบกันของนายเรแกนกับนายกอร์บาชอฟ ๒ คร้ง ั
ิ
ปริมาณการค้าของเกาหลีเหนือ ๕.๓๘ พันล้านดอลลาร์ ท่เจนีวา มีผลกระทบต่อสันติภาพของโลกย่งกว่าการ
ี
ี
ี
ี
สหรัฐอเมริกาในปีท่แล้วท่เป็นการค้ากับจีน ๕ พัน พบกันของนายทรัมพ์กบนายคิมจองอันทสิงคโปร์
ั
่
ั
�
ล้าน หรอกว่าร้อยละ ๙๐ กบจน โดยการค้ากบโลก มากมาย แต่เทคโนโลยีส่อสารมวลชนที่ทาให้ท่วโลก
ั
ื
ั
ี
ื
ภายนอกน้อยมาก ไม่มีตัวเลขงบประมาณการทหาร เห็นภาพข่าวการประชุมตามเวลาจริงที่สิงคโปร์ได้บดบัง
ของเกาหลีเหนือ แต่ค่าใช้จ่ายอาวุธนิวเคลียร์ และก�าลัง และทาให้คนหลงลืมการประชุมระดับ “หยุดโลก” ท ่ ี
�
้
ั
ื
ี
ทหารอันเกินตัวย่อมเป็นผลถึงความขาดแคลนต่อคน เจนีวากันไป ท้งน เม่อสหภาพโซเวียตมีอาวุธปรมาณ ู
ื
เกาหลีเหนืออย่างแน่นอน และพัฒนาแข่งกับสหรัฐอเมริกา และเม่อเกาหลีเหนือ
ื
เม่อเกาหลีเหนือจะมีอาวุธนิวเคลียร์จึงถึงกาลกิริยา จะมีอาวุธนิวเคลียร์คุกคามสหรัฐอเมริกา ต่างไปไม่รอด
พังพาบด้วยประการเช่นนี้ “คางเหลือง” กันทั้งสองราย
ื
ส่วนเม่อสหภาพโซเวียตมีอาวุธนิวเคลียร์ และเร่ง
เสริมสร้างแข่งกับสหรัฐอเมริกาจนเป็นสงครามเย็น ที่มาภาพ
ึ
ี
ท่ร้อนระอุน้น ในระหว่าง ค.ศ.๑๙๘๑ – ๑๙๘๙ ซ่ง http-//www.springnews.co.th/view/290068
ั
เป็นสมัยของประธานาธิบดีเรแกน (Ronald Reagan) http-//www.unsleepdoodle.com
http-//www.nypost.com
แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้มีหลักนิยม “สันติภาพจาก http-//www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/51972#&gid=1&pid=1
ความแข็งแกร่ง – Peace trough Strength” ท�าให้คลัง http-//www.tnews.co.th/contents/306697
http-//www.springnews.co.th/view/173003
สรรพาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา เพียบพร้อมสูงสุด http-//www.thairath.co.th/content/1306401
ึ
ซ่งสหภาพโซเวียตก็ไม่ยอมน้อยหน้า แต่เม่อนาย กอร์
ื
บาชอฟ (Mihail Gorbachev) ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
สหภาพโซเวียต (ค.ศ.๑๙๘๕ – ๑๙๙๑) ก็เห็นสถานะของ
ประเทศจะไปไม่ไหว จึงได้ก�าหนดนโยบาย “ Glasnost
” (เปิดกว้าง) และ “ perestroika ” (ปฏิรูป) ที่จะปรับ
ี
เปล่ยนระบบการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ 53

