Page 53 - นาวิกศาสตร์ มีนาคม ๒๕๖๒
P. 53
�
ี
�
�
ครูมงคลบอกว่าจะทาให้ไฟไม่ลุกลาม แต่จะนาไปใช้ ที่ทาหน้าท่ให้ออกซิเจนอยู่ด้วยกัน ลองเปรียบเทียบ
อย่างไร และทาไมถึงใช้ดับไฟได้ อันน้ขอเวลาศึกษา ระหว่างเช้อเพลิงธรรมดากับวัตถุระเบิดดูนะคะ
ื
�
ี
้
เพิ่มเติมสักหน่อย เมื่อมีข้อมูลแล้วจะมาเล่าให้ฟัง ยกตัวอย่างเวลานามันเช้อเพลิง (ในสถานะของเหลว)
ื
�
ี
“วัตถุระเบิด” เป็นสารเคมีท่มีคุณสมบัติพิเศษ ลุกติดไฟ จะมีแค่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่จะไม่ระเบิด
ื
้
ิ
ั
�
้
ั
่
สามารถจุดตัวได้เมื่อได้รับการกระตุ้น เช่น การกระแทก นนเป็นเพราะนามนเชอเพลงเป็นสารไฮโดรคาร์บอน
(รวมถึง Shock Wave ด้วย) การเสียดสี ความร้อน ท่ไม่มีออกซิเจนอยู่ในโครงสร้างโมเลกุลน่นเอง
ั
ี
�
ื
ี
และไฟฟ้าสถิต แล้วจะเปล่ยนโครงสร้างโมเลกุล แต่ถ้าเราเอานามันเช้อเพลิงมาผสมกับปุ๋ยยูเรียซ่งเป็นตัว
ึ
้
�
ี
ั
เป็นแก๊สจานวนมากได้ในทันท พร้อมท้งคายความร้อนออกมา ให้ออกซิเจน เราจะได้ผลิตภัณฑ์ท่เป็นวัตถุระเบิดทันท ี
ี
�
ี
ี
กลุ่มแก๊สจานวนมากน้จะขยายตัวทาให้เกิดกาลังดัน วัตถุระเบิดน้ช่อว่า ANFO ย่อมาจาก Ammonium
�
�
ื
�
แล้วเราก็เอาพลังงานจากกาลังดันไปใช้ประโยชน์ต่อไป Nitrate Fuel Oil
�
ความจริงการระเบิดเกิดได้หลายแบบ ไม่จาเป็น
ต้องเป็นวัตถุระเบิดก็เกิดได้ จึงมีการแบ่งประเภท
ของการระเบิดเป็น ๓ ประเภทหลัก คือ การระเบิดทางกล
�
้
เช่น ยางรถยนต์ระเบิด หม้อนาระเบิด เป็นต้น
การระเบิดทางนิวเคลียร์ ได้แก่ ระเบิดนิวเคลียร์ และ
การระเบิดทางเคม ซ่งการระเบิดจาก “วัตถุระเบิด”
ี
ึ
ั
ี
เป็นการระเบดทางเคม แต่ยงมีการระเบิดทางเคมอีก
ี
ิ
๒ แบบ ท่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ คือ การระเบิดของ
ี
ไอน�้ามันเชื้อเพลิง และ การระเบิดของผงฝุ่น แต่ผู้เขียน
จะขออธิบายเฉพาะการระเบิดจากวัตถุระเบิดเท่าน้น
ั
โดย “วัตถุระเบิด” เป็นสารประกอบหรือสารผสม
ที่มีทั้งเชื้อเพลิงและออกซิเจนเป็นเนื้อเดียวกัน ครูมงคล
ี
ุ
ิ
ี
ั
ั
ี
ี
ุ
ิ
บอกว่าในฐานะท่ผู้เขียนเป็นนักวิทยาศาสตร์จึงต้อง สารเคมทมคณสมบตเป็นวตถระเบดมหลายตว
ั
ี
่
ู
ุ
อฺธิบายความแตกต่างได้ ก็เลยตอบท่านไปว่า ถ้าเป็นวัตถ ุ แต่ละตวกมความไว (sensitive) ในการถกกระต้น
็
ั
ี
ึ
ระเบิดท่เป็นสารประกอบ ก็จะมีท้งส่วนท่เป็นเช้อเพลิง แตกต่างกัน ผู้เขียนขอยกตัวอย่างวัตถุระเบิดชนิดหน่งช่อว่า
ื
ั
ี
ื
ี
และออกซิเจนอยู่ในโครงสร้างโมเลกุลเดียวกัน เช่น “ไนโตรกลีเซอรีน” ปกติอยู่ในสถานะของเหลว เจ้าตัวนี้
ึ
�
ี
ไนโตรเซลลูโลส ท่เขานาเอาฝ้ายซ่งเป็นส่วนของเช้อเพลิง sensitive มาก สั่นสะเทือนนิดนึงก็บึ้ม! แล้ว จะเอาไป
ื
มาท�าปฏิกิริยากับกรดไนตริก ( HNO ) ซึ่งมีออกซิเจน ใช้ทีก็อันตราย แต่อานุภาพของการระเบิดให้พลังงาน
3
ั
มากมาย จนโครงสร้างโมเลกุลของไนโตรเซลลูโลสมีท้ง มหาศาล อัลเฟรด โนเบล (เจ้าของรางวัลโนเบลน่นแหละค่ะ
ั
ั
ื
ส่วนของเช้อเพลิงและออกซิเจนอยู่ในโมเลกุลเดียวกัน เขาเป็นท้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และเจ้าของโรงงาน
ี
ส่วนวัตถุระเบิดท่เป็นสารผสมก็เอาสารท่มีคุณสมบัต ิ ผลิตอาวุธชาวสวีเดน) จึงได้หาวิธีท�าให้มีความปลอดภัย
ี
ึ
แต่ละส่วนมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน เช่น ดินดา ซ่งประกอบด้วย มากข้นเวลาใช้งาน โดยหาวัสดุมาดูดซับไนโตรกลีเซอรีนเสีย
ึ
�
ื
ิ
�
ี
ั
ดินปะสิว ถ่าน และกามะถัน เม่อผสมท้ง ๓ ตัวน ้ ี ไม่ให้อยู่ในรูปของของเหลว แล้วก็เรียกผลงานช้นน้ว่า
ึ
เข้าด้วยกันแล้ว ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ท่เป็นวัตถุระเบิด “ไดนาไมท์” แทน ซ่งไดนาไมท์เป็นระเบิดที่มีอานุภาพ
ี
ุ
ี
ั
เพราะมีท้งส่วนท่ทาหน้าท่เป็นเช้อเพลิง และส่วน สูงและยังนยมใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่จนถึงปัจจบันน ี ้
�
ิ
ื
ี
52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๓ ประจำ�เดือน มีน�คม ๒๕๖๒

