Page 131 - รายงานประจำปี2562
P. 131

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๗๙๘/2562

                                  พฤติการณ์ล่อซื้อจับกุมตามคำเบิกความของพยานโจทก์ผู้ร่วมจับกุม เห็นได้ชัดว่าเจ้าพนักงาน
                       ตำรวจไม่ประสงค์ให้นางสาวแนนเข้าทำการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย จนเป็นความผิดสำเร็จเพื่อให ้
                       นางสาวแนนเป็นประจักษ์พยานยืนยันการกระทำความผิดของจำเลย ทั้งที่นางสาวแนนร่วมรู้เห็นและอยู่ในรถ
                       ของเจ้าพนักงานตำรวจด้วย ตลอดจนในชั้นพิจารณาโจทก์ก็มิได้นำนางสาวแนนซึ่งเป็นพยานปากเดียวที่พูดคุย
                       เจรจาตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับจำเลยมาเบิกความเป็นพยานยืนยันพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของ
                       จำเลยและทำให้จำเลยไม่มีโอกาสใช้สิทธิถามค้านให้เกิดการกระจายข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ส่วนข้ออ้างของ
                       พยานโจทก์ผู้ร่วมจับกุมว่าได้ยินเสียงสนทนาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนจากลำโพงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนางสาว
                       แนนที่เปิดไว้ ก็ไม่ได้ดำเนินการบันทึกเสียงการสนทนาไว้เป็นหลักฐาน ทำให้เป็นที่ระแวงสงสัยว่าข้อมูลการ
                       ติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างจำเลยกับนางสาวแนนที่ปรากฏอยู่นั้น เป็นการพูดคุยติดต่อซื้อขายเมทแอมเฟตามีน

                       กันจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการติดต่อทวงถามเรื่องเงินที่มีการกู้ยืมกันไปดังที่จำเลยฎีกาต่อสู้ อีกทั้งร้อยตำรวจ
                       โท กรุงไกร พยานโจทก์ทำหนังสือขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติการอำพรางตามเอกสารหมาย จ.1
                       โดยระบุชัดเจนว่าจะดำเนินการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยในราคาเม็ดละ 100 บาท นั้น พยานโจทก์ผู้ร่วม
                       จับกุมก็ไม่ใช้วิธีการจัดเตรียมธนบัตรมอบให้นางสาวแนนไปดำเนินการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยให้เกิด
                       เป็นความผิดสำเร็จ เพื่อที่พยานโจทก์ผู้ร่วมจับกุมที่ไปซุ่มดูอยู่จะได้เป็นประจักษ์พยานรู้เห็นการจำหน่ายเมทแอม
                       เฟตามีนของจำเลย ส่วนข้อที่ร้อยตำรวจโท กรุงไกร เบิกความว่าจะใช้ธนบัตรล่อซื้อเฉพาะกรณีสถานที่ล่อซื้อ เป็นจุด
                       อับซึ่งผู้กระทำความผิดไม่สามารถหลบหนี หรือมิฉะนั้นต้องเป็นกรณีที่ทราบที่อยู่ของผู้กระทำความผิด เพราะ
                       สามารถติดตามจับกุมได้สะดวกนั้นการคาดคะเนของพยานขัดแย้งกับที่พยานเบิกความว่ามีการวางแผนการตรวจค้น

                       จับกุมด้วยวิธีการใช้รถยนต์ของเจ้าพนักงานตำรวจปิดล้อมรถยนต์ของจำเลยไว้ มิให้ขับหลบหนีไปได้ตั้งแต่แรก
                                                                        ้
                       ซึ่งส่อให้เห็นเป็นพิรุธ ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อว่ามีเหตุขัดข้องทำใหไม่สามารถใช้วิธีล่อซื้อเพื่อจับกุมได้ นอกจากนั้น
                       ลักษณะบรรจุเมทแอมเฟตามีนของกลางซึ่งพยานโจทก์ผู้ร่วมจับกุมเบิกความอ้างว่าแยกเป็น 2 ส่วน บรรจุอยู่ใน
                       ถุงพลาสติกใส 10 เม็ด อีก 2 เม็ดห่อไว้ด้วยกระดาษตะกั่ว เป็นทำนองว่าจำเลยได้จัดเตรียมแบ่งเมทแอมเฟตา
                       มีนเพื่อจำหน่ายตามที่ถูกล่อซื้อแล้วนั้น จำเลยนำสืบปฏิเสธว่า  ไม่มีการแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนแยกเป็น 2 ส่วน
                       แต่ประการใด เมทแอมเฟตามีนทั้ง 12 เม็ด ใส่อยู่รวมกันในถุงพลาสติกใบเดียว ในข้อนี้ นอกจากโจทก์จะไม่มี
                       ภาพถ่ายในชั้นจับกุมจำเลยมาแสดงให้เห็นลักษณะการแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนของกลางแล้วในชั้นสอบสวน
                       พนักงานสอบสวนก็มิได้ระบุลักษณะการแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวว่าแยกเป็น 2 ส่วน จริงหรือไม่
                       ประกอบกับการมายังที่เกิดเหตุของจำเลยไม่อาจรับฟังได้เป็นที่ยุติ ดังวินิจฉัยมาข้างต้นว่า เป็นเพราะนางสาว

                                                                                                           ั
                       แนนโทรศัพท์ติดต่อซื้อขายเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยจริงหรือไม่ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบจึงยังมีเหตุอน
                       ควรสงสัยว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายจริงหรือไม่
                       ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง
                       ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 มาตรา 3







                        รายงานประจำปี ๒๕๖๒                                                                                                   หน้า | ๑๒๐
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135