Page 49 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 49

39



                  เรื่องที่ 2 วิธีการทางประวัติศาสตร
                                                         ี
                                                                ี่
                                                                               ั
                                                                              
                                              ั
                                การศึกษาประวติศาสตร มความเกยวของสัมพันธกบหลักฐานทางประวัติศาสตร
                  กาลเวลา และนักประวัติศาสตร ดังนั้น จําเปนตองมีวิธีการในการรวบรวมคนควาหาขอมล เพื่อนํามา
                                                                                               ู
                  วิเคราะหหาเหตุผล และขอสรุป ซึ่งจะเปนขอเท็จจริงทางประวัติศาสตรที่ใกลเคียงกับความเปนจริง
                  มากที่สุด โดยวิธีการทางประวัติศาสตร
                                วิธีการทางประวัติศาสตรมีอยู 5 ขั้นตอน คือ

                               1.  การกําหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา/การตั้งประเด็นที่จะศึกษา
                                                                                                     
                                   การศึกษาเรื่องราวในประวติศาสตรเริ่มจากความสงสัย อยากรู ไมแนใจ
                                                              ั
                                                                                                  ี่
                  กับคําอธิบายเรื่องราวที่มีมาแตเดิม ดังนั้น ผูศึกษาจึงเริ่มจากการกําหนดเรื่องหรือประเด็นทตองการ
                  ศึกษาซึ่งในตอนแรก อาจกําหนดประเด็นที่ตองการศึกษาไวกวาง ๆ กอน แลวจึงคอยจํากัดประเด็น

                  ลงใหแคบ เพื่อใหเกิดความชัดเจนในภายหลัง เพราะบางเรื่องขอบเขตของการศึกษาอาจกวางมาก
                  ทั้งเหตุการณ บุคคล และเวลา
                                  การกําหนดหัวเรื่องอาจเกี่ยวกับเหตุการณ ความเจริญ ความเสื่อมของอาณาจักร

                  ตัวบุคคลในชวงเวลาใดเวลาหนึ่ง อาจยาวหรือสั้นตามความเหมาะสม ซึ่งผูศึกษาเห็นวาเปนชวงเวลา

                                  ี
                                                  ี่
                                               ู
                                                                                ั
                                                                                                   
                                                                                                     ี
                   ี่
                  ทสําคัญ และยังมหลักฐานขอมลทผูตองการศึกษาหลงเหลืออยู หวขอเรื่องอาจปรับใหมความ
                  เหมาะสมหรือเปลี่ยนแปลงได ถาหากหลักฐานที่ใชในการศึกษามีนอยหรือไมนาเชื่อถือ
                                2. การรวบรวมหลักฐาน/สืบคนและรวบรวมขอมูล
                                  การรวบรวมหลักฐาน คือ การรวบรวมรายละเอียดและสิ่งตาง ๆ ที่เกยวของกบ
                                                                                                         ั
                                                                                                 ี่
                  หัวขอที่จะศึกษา ซึ่งมีทั้งหลักฐานที่เปนลายลักษณอักษร และหลักฐานที่ไมเปนลายลักษณอักษร
                                                                                     
                                                                                   ี่
                                                              ั
                                                                        
                                  1) หลักฐานทเปนลายลักษณอกษร ไดแก หลักฐานทเปนตัวหนังสือโดยมนุษย         
                                               ี่
                                                 
                  ไดทิ้งรองรอยขีดเขียนเปนตัวหนังสือประเภทตาง ๆ ในรูปของการจารึกในศิลาจารึกและการจารึก
                                                                                    
                  บนแผนโลหะ นอกจากนี้หลักฐานทางประวัติศาสตรทเปนลายลักษณอักษรประเภทอื่น เชน
                                                                      ี่
                  พงศาวดาร จดหมายเหตุ ตํานาน เอกสารพื้นบาน และกฎหมาย
                                                                                ุ
                                                                         
                                  2) หลักฐานทเปนวตถุ ไดแก วตถุทมนุษยแตละยคแตละสมยไดสรางขึ้น และ
                                                                                          ั
                                               ี่
                                                               ั
                                                                   ี่
                                                 
                                                    ั
                                                            
                                                                              
                                                                                                   ั
                  ตกทอดมาจนถึงปจจุบัน เชน โบราณสถาน ประกอบดวย วด เจดีย มณฑป และโบราณวตถุ เชน
                                                                       ั
                  พระพุทธรูป ถวยชามสังคโลก
                                                                                
                                     ประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตรไทย แบงตามลําดับความสําคัญของ
                  หลักฐานทางประวัติศาสตรเปน 2 ประเภท คือ
                                                                                                
                                     1) หลักฐานชั้นตนหรือหลักฐานปฐมภูมิ (Primary  Sources) เปนหลักฐาน
                  ทมาจากเหตุการณทเกดขึ้นในสมยนั้นจริง ๆ โดยมีการบันทกของผูทเกยวกับเหตุการณโดยตรง
                   ี่
                                                                                    ี่
                                                                                 ี่
                                     ี่
                                       ิ
                                                                         ึ
                                                ั
                                                                             
                                                                                         ี่
                                                                                           ี
                  หรือผูที่รูเหตุการณนั้นดวยตนเอง ดังนั้น หลักฐานชวงตน จึงเปนหลักฐานทมความสําคัญและ
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54