Page 53 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 53

43



                         ขอมูลที่ไดจากหลักฐานทั้งความจริงและขอเท็จจริง
                                                                     ี่
                                                                        ํ
                               ในการสรุปขอมลที่ไดจากหลักฐาน สิ่งทผูทาการศึกษาคนควาจะมทงขอเทจจริง
                                                                                        
                                                                                               ั้
                                                                                             ี
                                              ู
                                                                                                     ็
                                                                                                         ั
                  และความจริงที่ปรากฏอยูบนหลักฐาน ผูที่ทําการศึกษาจะตองทําความเขาใจกอนวาขอเท็จจริงกบ
                  ความจริงที่ไดจากหลักฐานนั้นแตกตางกันอยางไร
                               ขอเท็จจริง คือ เรื่องราวหรือสิ่งที่ปรากฏอยูในหลักฐานซึ่งมีทั้งสวนที่เปนจริง (ขอจริง)
                  และสวนที่ไมเปนความจริง (ขอเท็จ) ปะปนกันอยู จึงตองไดรับการประเมินและตรวจสอบความนาเชื่อถือ
                  อยางรอบคอบ
                               ความจริง คือ เรื่องราวซึ่งไดรับการประเมิน และใหการยอมรับวามีความนาเชื่อถือ

                  เปนเรื่องราวที่ใกลเคียงกับความเปนจริงมากที่สุด และมีหลักฐานที่นาเชื่อถือไดใหการสนับสนุน
                                                                   ั
                               ดังนั้น การศึกษาเรื่องราวทางประวติศาสตร โดยใชขอมลจากหลักฐานนั้น
                                                                                        ู
                                                                                                    
                  จึงตองมีการแยกแยะถึงขอเทจจริงและความจริงเสมอ เพราะเรื่องราวในประวติศาสตรเปนสิ่งท     ี่
                                                                                          ั
                                            ็
                                                                         ี่
                  เกิดขึ้นมาแลวในอดีต เราจึงไมสามารถทราบไดวาเรื่องราวทเกิดขึ้นนั้นเปนอยางไร การใชขอมล
                                                                                     
                                                              
                                                                                                         ู
                                                                              ู
                                                                    
                  จากหลักฐานจึงตองทาการพิจารณาอยางถี่ถวนจนกวาจะไดขอมลทมความนาเชื่อถือเพื่อใหได
                                                                                   ี
                                                                                                        
                                      ํ
                                                                                 ี่
                  เรื่องราวที่ใกลเคียงกับความจริงมากที่สุด
                               3. การประเมินคุณคาของหลักฐาน/การวิเคราะหและตีความขอมูลทางประวัติศาสตร
                                                              ี่
                                                                                      ํ
                                  หลักฐานทางประวัติศาสตรทคนความาได กอนทจะทาการศึกษาจะตองม           ี
                                                                                  ี่
                                                       
                                                    ี่
                                        
                            ิ
                  การประเมนคุณคาวาเปนหลักฐานทแทจริงเพียงใด การประเมินคุณคาของหลักฐานนี้เรียกวา
                                                ี
                  “วิพากษวิธีทางประวัติศาสตร” ม 2 วิธ ดังตอไปนี้
                                                     ี
                                                                                                         ิ
                                  1) การประเมนคุณคาภายนอกหรือวิพากษวิธภายนอก หมายถึง การประเมน
                                                                             ี
                                               ิ
                  คุณคาของหลักฐานจากลักษณะภายนอกของหลักฐานทางประวัติศาสตร บางครั้งก็มการปลอมแปลง
                                                                                           ี
                  เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ ทําใหหลงผิด หรือเพื่อเหตุผลทางการเมอง การคา ดังนั้น จึงตองมการ
                                                                                                      ี
                                              
                                                                              ื
                  ประเมินวาเอกสารนั้น เปนของจริงหรือไม ในสวนวิพากษวิธีภายนอก เพื่อประเมินหลักฐานวาเปน
                                                                                                     
                                                                                                         
                                                       
                  ของแท พิจารณาไดจากสิ่งที่ปรากฏภายนอก เชน เนื้อกระดาษ ของไทยแตเดิมจะหยาบและหนา
                        
                  สวนกระดาษฝรั่งที่ใชกันอยูในปจจุบัน เริ่มเขามาในรัชสมยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลาเจาอยูหว
                                                                      ั
                                                                                                         ั
                  (รัชกาลท 3) แตทางราชการจะใชกระดาษฝรั่งหรือสมดฝรั่งมากขึ้น ในตนรัชสมยพระบาทสมเด็จ
                                                                                          ั
                          ี่
                                                                  ุ
                                         ู
                                                                                                         ั
                                          ั
                                                      ี่
                  พระจุลจอมเกลาเจาอยหว (รัชกาลท 5) เกยวกับตัวพิมพดีดเริ่มใชมากขึ้นในกลางรัชสมย
                                                            ี่
                  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ถาปรากฏวามีหลักฐานทางประวัติศาสตรไทยในรัชสมัย
                  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกลาเจาอยูหัวใชตัวพิมพดีด ก็ควรสงสัยวาหลักฐานนั้นเปนของปลอม
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58