Page 55 - หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ม.ปลาย
P. 55

45



                  ทั้งจากความรูเดิมและความรูใหม รวมไปถึงความคิดใหมที่ไดจากการศึกษาครั้งนี้ซึ่งเทากับเปนการรื้อฟน
                                              
                  หรือจําลองเหตุการณทางประวัติศาสตรขึ้นมาใหม อยางถูกตองและเปนกลาง
                                                               
                                                                                                     ี
                                                                                          ี
                                  ในขั้นตอนการนําเสนอ ผูศึกษาควรอธบายเหตุการณอยางมระบบและมความ
                                                                      ิ
                                                                                      ิ
                  สอดคลองตอเนื่อง เปนเหตุเปนผล มีการโตแยงหรือสนับสนุนผลการศึกษาวเคราะหแตเดิม โดยม  ี
                                                                                              
                  ขอมูลสนับสนุนอยางมีน้ําหนัก เปนกลาง และสรุปการศึกษาวาสามารถใหคําตอบที่ผูศึกษามีความสงสัย
                  อยากรูไดเพียงใด หรือมีขอเสนอแนะใหสําหรับผูที่ตองการศึกษาตอไปอยางไรบาง
                                            
                                  จะเหนไดวาวธการทางประวัติศาสตรเปนวธการศึกษาประวัติศาสตรอยางม         ี
                                       ็
                                                                           ิ
                                                                            ี
                                                                                                      
                                               ิ
                                                ี
                                                                                                      
                  ระบบ มีความระมัดระวัง รอบคอบ มีเหตุผลและเปนกลาง ซื่อสัตยตอขอมูลตามหลักฐานที่คนความา
                                                                                                  ั
                                                                                                     ็
                  อาจกลาวไดวา วิธีการทางประวัติศาสตรเหมือนกบวิธการทางวทยาศาสตร จะแตกตางกนกเพียง
                                                              ั
                                                                           ิ
                                                                  ี
                  วิธีการทางวิทยาศาสตรสามารถทดลองไดหลายครั้ง จนเกิดความแนใจในผลการทดลอง แตเหตุการณ
                  ทางประวัติศาสตรไมสามารถทําใหเกิดขึ้นใหมไดอีก ผูศึกษาประวัติศาสตรที่ดีจึงเปนผูฟนอดีตหรือ
                                                                                    ั
                                                          ี่
                                                                     ิ
                                                                      ี
                                ี
                                                                                                 ี่
                               
                                                                                                         ิ
                  จําลองอดีตใหมความถูกตองและสมบรณทสุด โดยใชวธการทางประวติศาสตรเพื่อทจะไดเกด
                                                     ู
                  ความเขาใจอดีต อันจะนํามาสูความเขาใจในปจจุบัน
                               6. ตัวอยางการนําวิธีการทางประวัติศาสตรมาใชศึกษาประวัติศาสตรไทย
                                การศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับปอมพระจลจอมเกลา จงหวัดสมทรปราการ
                                                                                 
                                                                                              ุ
                                                                       ุ
                                                                                     ั
                  ดวยวิธีการทางประวัติศาสตร
                               1. การกําหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา/การตั้งประเด็นที่จะศึกษา จะตองตั้งประเด็น
                                                                                           ํ
                                                                                                   
                  ปญหาเพื่อใชเปนแนวทางในการศึกษากอน  เพราะการตั้งประเด็นปญหาจะชวยกาหนดเปาหมาย
                                  ั
                                                                                                        
                                                                                           
                  ในการศึกษาประวติศาสตรไทยไดอยางถูกตองและตรงประเด็น การตั้งกาหนดปญหาเพื่อใชเปน
                                                                                    ํ
                                                   
                  แนวทางในการศึกษานั้นมีดวยกันหลายอยาง ดังนี้
                               “ปอมพระจุลจอมเกลาสรางขึ้นมาเมื่อใด”
                              “ใครเปนผูที่สรางปอมพระจุลจอมเกลานี้ขึ้น”
                              “ปอมพระจุลจอมเกลาถูกสรางขึ้นไวในบริเวณใด”
                              “ปอมพระจุลจอมเกลาถูกสรางขึ้นดวยจุดประสงคใด”
                              “ลักษณะโดยทั่วไปของปอมพระจุลจอมเกลาเปนอยางไร”
                              “ปอมพระจุลจอมเกลามีความสําคัญอยางไรในทางประวัติศาสตร”
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60