Page 63 - sc 21001
P. 63
55
ํ
1.2 โครงสรางและการทํางานของระบบลําเลียงนาในพืช
้
ี
่
พืชทไม่มีทอลําเลียง เชน มอส มักจะมีขนาดเล็กและเจรญในบรเวณทมีความช นสงมีรมเงา
ู
่
ื
่
ิ
ี
ิ
่
่
ึ
ุ
ั
ึ
ี
เพียงพอ เซลล์ทกเซลล์ได้รบนํ าอย่างทั วถึง โดยการแพรจากเซลล์หนงไปยังอีกเซลล์หนง สวนพืชทมี
่
็
ี
่
ึ
ี
ขนาดใหญจะใช้วิธการเชนเดยวกับมอสไม่ได้ จําเปนต้องมีทอลําเลียงจากรากข นไปเลี ยงเซลล์ทอยู ่
ี
่
ู
ิ
ปลายยอดโดยปกติแล้วสารละลายภายในเซลล์ขนรากมีความเข้มข้นสงกว่าภายนอก ดังนั น นํ าในดน
ู
์
่
ุ
ิ
ี
่
ี
่
ก็จะแพรผ่านเยื อห้มเซลล์เข้าสเซลล์ทผิวของราก การเคลื อนทของนํ าในดนเข้าสรากผ่านชั นคอรเทกซ์
ู
ึ
์
ของรากไปจนถึงชั นเอนโดเดอรมิสได้ โดยนํ าจะผ่านจากเซลล์หนงไปยังอีกเซลล์หนงทางผนังเซลล์
ึ
ี
ื
ี
่
หรอผ่านทางชองว่างระหว่างเซลล์เรยกเส้นทางของการเคลื อนทแบบน ว่า อโพพลาส (apoplast)
ี
สวนการเคลื อนทของนํ าผ่านเซลล์หนงสเซลล์หนงทางไซโทพลาซม ทเรยกว่า พลาสโมเดสมาเข้าไป
ี
ึ
ึ
ี
ึ
่
ู
่
ี
ี
่
์
ู
่
ในเซลล์เอนโดเดอรมิส กอนเข้าสไซเลมเรยกการเคลื อนทแบบน ว่า ซมพลาส (symplast) เมื อนํ าเคลื อน
ี
ี
ิ
้
ี
ี
ี
ี
ิ
ทมาถึงผนังเซลล์เอนโดเดอรมิสทมีแคสพาเรยนสตรพ กั นอยู่ แคสพาเรยนสตพปองกันไม่ให้นํ าผ่าน
์
ิ
ึ
ึ
ผนังเซลล์เข้าไปในไซเลม ดังนั นนํ าจงต้องผ่านทางไซโทพลาซมจงจะเข้าไปในไซเลมได้
ึ
ื
ั
ี
ิ
ุ่
ถ้าลองตัดลําต้นของพืชบางชนด เชน มะเขอเทศ พุทธรกษา หรอกล้วยทปลูกในทมีนํ าชมให้
ื
่
ี
ิ
ิ
ิ
่
ิ
เหลือลําต้นสงจากพื นดนประมาณ - เซนตเมตร แล้วสังเกตตรงบรเวณรอยตัดของลําต้น สวนทตด
ู
ี
ึ
ี
็
กับรากจะเหนของเหลวซมออกมา เนองจากในไซเลมของรากมีแรงดัน เรยกว่า แรงดันราก (root pressure)
ื
ึ
ี
ี
ั
การเคลื อนทของนํ าเข้าสไซเลมของรากทําให้เกดแรงดันข นในไซเลม ในพืชทได้รบนํ าอย่างพอเพียง
่
ู
ิ
่
ื
ู
ี
ื
ู
ื
่
่
และอยูในสภาพอากาศทมีความช นสง เชนเวลากลางคนหรอเช้าตร แรงดันรากมีประโยชน์ในการชวย
่
ี
่
ละลายฟองอากาศในไซเลมทอาจเกดขึ นในชวงเวลากลางวัน แตในสภาพอากาศรอนและแห้งในเวลา
่
ิ
้
ี
ู
่
ึ
ึ
กลางวัน พืชมีการคายนํ ามากข นจะเกิดแรงดงของนํ าในทอไซเลมทําให้ไม่พบแรงดันราก การสญเสย
ื
ิ
่
นํ าจากใบโดยการคายนํ าเกดขึ นเนองจากความแตกตางระหว่างปรมาณไอนํ าในบรรยากาศ และไอนํ า
ิ
่
ึ
่
ในชองว่างภายในใบ การลําเลียงนํ าในทอไซเลมนั น เกดขึ นเนองจากมีแรงดงนํ าทอยูในทอไซเลม
่
ี
่
ื
ิ
ี
่
ให้ข นมาทดแทนนํ าทพืชคายออกสบรรยากาศ แรงดงน จะถูกถ่ายทอดไปยังรากทําให้รากดงนํ าจากดน
ึ
ี
ึ
ึ
ู
ิ
ื
่
ี
เข้ามาในทอไซเลมได้เนองจากนํ ามีแรงยึดเหนยวระหว่างโมเลกุลของนํ าด้วยกันเอง เรยกว่า
ี
โคฮีชน (cohetion) สามารถทจะดงนํ าเข้ามาในทอไซเลมได้โดยไม่ขาดตอน นอกจากน ียังมีแรงยึด
ึ
ั
่
ี
เหนยวระหว่างโมเลกุลของนํ ากับผนังของทอไซเลม เรยกว่า แอดฮีชน (adhesion) เมื อพืชคายนํ ามากจะ
่
ั
ี
ี
ึ
่
ทําให้นํ าระเหยออกไปมากด้วย ดังนั นนํ าในไซเลมจงสามารถเคลื อนทและสงตอไปยังสวนตาง ๆ ของ
่
่
ี
่
พืชได้ ไม่ว่าจะเปนลําต้น ใบ หรอยอดรากก็จะเกดแรงดงนํ าจากดนเข้าสทอไซเลมได้ แรงดงเนองจาก
ื
่
ิ
่
ู
ื
ึ
ึ
ิ
็
ี
ู
ี
ี
การสญเสยนํ าน เรยกว่า แรงดึงจากการคายนํ า (transpiration pull)

