Page 199 - การจัดการเรียนรู้บูรณาการ ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
P. 199
การจัดการเรียนรู้บูรณาการด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เล่ม 2 9
5. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
การมัดย้อม
5.1 ประวัติความเป็นมา
สันนิษฐานว่าการย้อมผ้ามีมากว่า 1000 ปี มีการย้อมสีแหหรืออวน จับปลาเพื่อป้องกัน
การเปื่อย และเก่าง่าย โดยใช้ไม้มะเกลือมาต้มให้เกิดสี ต่อมาใช้เปลือกไม้ต่างๆ เช่น ไม้โกงกาง ไม้โปรงแดง
ไม้โปรงดำ ไม้ตะบูน ไม้ตะบัน แต่ที่นิยมกันมาก คือไม้โปรง กับไม้ตะบูน ซึ่งเรียกการย้อมนั้นว่า การย้อมผ้า
น้ำกะเตา ซึ่งมีสีน้ำตาลอย่างเดียว การย้อมเสื้อผ้าสมัยก่อนเกิดจากผู้ที่มีอาชีพตัดไม้ โดยตัดไม้แล้วทำให้
ยางไม้ติดเสื้อผ้า ซักไม่ออก จึงเกิดการนำเปลือกไม้มาต้มแล้วนำเสื้อผ้ามาย้อมซึ่งทำให้ใส่แล้วเย็นสบาย
ผู้ที่มีอาชีพตัดไม้ และเผาถ่านจึงนิยมย้อมเสื้อผ้า เพื่อนำไปใส่ในการประกอบอาชีพ ต่อมามีการฟื้นฟู
พิพิธภัณฑ์เขายี่สาร จึงมีการคิดค้นเพื่อทำเป็นของที่ระลึกเวลามีนักท่องเที่ยว หรือนักศึกษาค้นคว้ามาเยี่ยมชม
พิพิธภัณฑ์เขายี่สาร โดยมีการสืบสานภูมิปัญญาการย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ธรรมชาติซึ่งนำมาจากพืชป่าชายเลน
ที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาจัดทำเป็นเสื้อ กางเกง ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋า เป็นต้น โดยเรียนการมัดย้อมจากสำนักงาน
พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม และพัฒนามาเป็นลวดลายของตนเอง โดยแต่ละชิ้นงานไม่ซ้ำแบบใคร
และยึดหลักการใช้สีธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์สืบสานต่อมา
5.2 ขั้นตอนในการทำผ้ามัดย้อม
1. การเตรียมผ้า
ผ้าที่ใช้ทำผ้ามัดย้อม ควรใช้ผ้าสีขาวหรือผ้าสีอ่อนผ้าที่มีขายตามท้องตลาดเป็นผ้าที่ผ่านการ
แต่งมาก่อน เพื่อให้ผ้าแข็งตัวและเป็นเงาเรียบ ผู้ผลิตจะแต่งและอาบผ้าด้วยสารเรซิ่นหรือแป้งใช้เป็นส่วนมาก
สารตัวที่กล่าวมานี้นับว่าเป็น อุปสรรคต่อการแทรกซึมของน้ำสี ฉะนั้นก่อนจะลงมือย้อมสี ควรขจัดสิ่งเหล่านี้
ออกให้หมดเสียก่อน แต่ถ้ามีสารอาบผิวใส่จำนวนน้อยอาจทำความสะอาดได้ โดยการใช้ผงซักฟอกได้
2. การเตรียมลายมัดย้อม
ผู้ปฏิบัติผ้ามัดย้อมย่อมปรารถนาให้ลายที่เกิดขึ้นบนผ้าลายที่ไม่อยากให้ซ้ำกับผู้อื่น ดังนั้น
ผู้ที่ปฏิบัติงานมัดย้อมจึงผูกผ้าของตนเองได้อย่างอิสระ โดยการให้ความคิดคำนึงสร้างสรรค์ ลายที่ออกมา
ย่อมเป็นงานที่พึงพอใจของผู้ปฏิบัติเอง
3. การเตรียมน้ำย้อม
การทำผ้ามัดย้อมสามารถย้อมได้ตามวิธีกรรมถึงสีที่ย้อมได้ในอุณหภูมิสูงและต่ำได้ แต่ทั้งนี้
จะต้องคำนึงถึงประเภทของสีและผ้าให้ถูกต้องหลายๆ สี ภายหลังที่ได้ย้อมสีแรกเสร็จแล้ว เช่นนี้เรื่อยไปจน
กว่าจะได้สีและลายที่ต้องการ การมัดย้อมโดยการเล่นสีให้เป็นสีอ่อนสีแก่ในผืนเดียวกัน ในการย้อมสี
อาจทำได้โดยการเริ่มจากสีอ่อนไปจนถึงสีเข้มจัด
4. สีรีแอ๊คทีฟ
สีประเภทนี้มีความทนทานสูงให้สีสดใส ย้อมง่าย ซึมเข้าในเส้นใยได้ดี โดยทำปฏิกิริยากับ
สารเคมีจะทำให้สีสดใส แต่ราคาค่อนข้างสูงย้อมง่าย แต่ถ้าย้อมน้ำเข้มจะต้องเอาผ้าที่ย้อมเก็บค้างคืน
เสียก่อนจึงนำไปล้าง จะได้สีผ้าสีเข้มและสีที่ได้จะสดใสสวยงาม

