Page 198 - การจัดการเรียนรู้บูรณาการ ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
P. 198
90 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
2. สาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน
ความพร้อมของระบบไฟฟ้านั้นอยู่ในระดับที่มีกระแสไฟฟ้าใช้ได้ในทุกอำเภอ โดยเป็นกระแสไฟฟ้า
จากเขื่อนลำโดมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี ในขณะที่ระบบประปาก็ยังมีความสามารถในการผลิตรองรับ
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 26 ส่วนระบบการสื่อสาร มีจำนวนหมายเลข โทรศัพท์ทั้งขององค์การ
โทรศัพท์ และไทยเทเลโฟน์แอนด์เทเลคอมมิวนิเคชั่น ที่มีจำนวนหมายเลขเพียงพอในการรองรับการขยายตัว
ของความต้องการอีกราวร้อยละ 12 ของการให้บริการในปัจจุบัน
3. โครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในปัจจุบันมีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับผ้าย้อมคราม คือ โครงการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาชุดความรู้
ภูมิปัญญาไทญ้อด้านสิ่งทอ” และการวิจัยเคมีของสีครามในกระบวนการทำสีครามธรรมชาติ ได้ศึกษา
พัฒนากระบวนการทำสีครามจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เป็นระบบที่สามารถตรวจวัดและได้ผลผลิต
(สีครามสำหรับย้อมผ้า) แน่นอนมากยิ่งขึ้น โดยใช้หลักทางวิทยาศาสตร์และรวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่น
ในการทำสีครามของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์เพื่อให้บริการความรู้ในเรื่องการผลิตและคุณลักษณะ
ของคราม งานวิจัยที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
4. ทรัพยากรธรรมชาติ
การผลิตผ้าครามนั้นปัจจัยการผลิตที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ ต้นคราม ซึ่งบริเวณจังหวัดสกลนครและ
พื้นที่ในลุ่มน้ำสงคราม เป็นแหล่งที่มีต้นครามขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติเนื่องจากมีสภาพดินฟ้าอากาศ
ที่เหมาะสม การปลูกต้นครามเพื่อใช้ในการย้อมผ้าครามในปัจจุบัน จึงมีทั้งที่ปล่อยให้ต้นครามขึ้นเอง
ตามธรรมชาติตามหัวไร่ปลายนา และที่เพาะปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ สีของครามที่ได้จากแต่ละพื้นที่
มักจะให้เฉดสีที่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้เนื่องจากความเป็นกรด-ด่าง ในดินที่ไม่เท่ากัน ความไม่สม่ำเสมอ
ของสีในลักษณะนี้ ทำให้ปริมาณการฟอกย้อมแต่ละครั้งไม่สามารถทำได้ในปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม
วัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตผ้าครามได้แก่ ฝ้าย ซึ่งยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของคลัสเตอร์
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำเข้าจากต่างจังหวัด เช่น จังหวัดเลย แพร่ พะเยา ลำปาง เป็นต้น
ประวัติความเป็นมาของผ้าย้อมคราม
สีครามเป็นสีย้อมธรรมชาติที่เก่าแก่มาก ซึ่งมนุษย์รู้จักกันมามากว่า 6000 ปี ประชากรที่อาศัย
ในเขตร้อนของโลกล้วนเคยทำสีครามจากต้นไม้ชนิดต่างๆตามภูมิภาคนั้นๆ แต่สีครามคุณภาพดีผลิตจาก
เอเชีย ดังเช่น สีครามจากอินเดียเป็นที่นิยมของคนอังกฤษมากกว่าสีครามจากเยอรมันและฝรั่งเศส
แต่การใช้สีครามลดลงเหลือเพียง 4 % ของทั่วโลกในปี 2457 หลังจากการคิดค้นสีครามสังเคราะห์ในเยอรมัน
ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2535 ประเทศของเราพบกับปัญหา มลพิษจากสิ่งแวดล้อม สาเหตุหนึ่ง เกิดจาก
สารเคมีสังเคราะห์ซึ่งรวมถึงสีย้อมด้วย สีย้อมผ้าส่วนใหญ่เป็นออกไซด์ของโลหะหนัก ซึ่งโลหะหนักหลายชนิด
เป็นสารก่อมะเร็ง ใส่แล้วรู้สึกร้อน ดังนั้น จึงหันมานิยมสีย้อมธรรมชาติ ซึ่งในขณะ เดียวกันก็ได้นำภูมิปัญญาเก่า ๆ
ที่ได้สืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณจากเดิมเกือบลือหายไปแล้วนั้น กลับมาพัฒนาเป็นอาชีพหลัก
ของลูกหลานในทุกวันนี้

