Page 37 - เล่ม 23 เกษตรผสมผสาน บ้านชบา
P. 37

ื
 ั
 �
 ี
 ิ
 ี
 ไก่ท้งตัว หากเล้ยงปลาและเล้ยงหมูก็ย่งไม่ต้องซ้ออาหารกิน จึงเกิดคาถามว่า  ใกล้ชิด มีความเข้าใจในภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงสามารถน�ามาปรับเปลี่ยนฟื้นฟู
 ทาไมชาวบ้านถึงไม่ทาการผลิตอาหารการกินเอง ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว   ระบบคุณค่าและภูมิปัญญาดังกล่าว โดยนาบทเรียนสาคัญของการดาเนินงาน
 �
                                              �
 �
                                                      �
                                                                  �
 ผลไม้ ไก่ ปลา หมู รวมถึงการผลิตของใช้อื่น ๆ เช่น สบู่ ยาสระผม เป็นต้น   พัฒนาแนวใหม่ ท่เน้นการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถ่น ค้นหาภูมิปัญญาชาวบ้าน
                                                   ิ
                           ี
 ก็จะช่วยอุดรูรั่วจากรายจ่ายของครอบครัวที่เป็นภาระมากอยู่ในปัจจุบัน  รวมถึงได้มีการสืบค้นหาปราชญ์ผู้รู้ชาวบ้านที่มีความรู้เฉพาะด้านต่าง ๆ ซึ่ง
 ึ
 �
 ผู้นาชุมชนบ้านชบาซ่งรวมถึงพระมงคลวชิรากร จึงได้คิดถึงการ  โดยส่วนใหญ่เป็นผู้น�า “ธรรมชาติ” แม้จะไม่มีต�าแหน่งผู้น�าทางการใด ๆ ใน
 �
 สนับสนุนให้ชาวบ้านชบาหันมาสนใจร่วมทาการเกษตรแบบผสมผสาน อัน  หมู่บ้าน แต่ผู้นาธรรมชาติเหล่าน้จะเป็นกาลังสาคัญในการสนับสนุน
                                          ี
                                                       �
                          �
                                                  �
                                                              ึ
 เป็นค�าตอบที่ชาวบ้านและผู้น�าชุมชนบ้านชบาหลายคนได้กล่าวถึงว่าจะเป็น  กระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เรียนรู้เร่องปัญหาต่าง ๆ ท่เกิดข้นกับชาวบ้าน
                                          ื
                                                          ี
 ทางเลือกหรือทางออกที่ดี การปลูกพืชหลายอย่างไปพร้อมกัน ไม่ปลูกเพียง  เรียนรู้เหตุปัจจัยของปัญหา เรียนรู้หาทางแก้ไขปัญหาเพ่อการพ่งตนเองได้
                                                                 ึ
                                                           ื
 พืชชนิดใดชนิดหนึ่ง มีทั้งไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว และมีการเลี้ยงสัตว์  ของคนในชุมชน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์การท�างานใน
 ี
                        �
 �
                 ิ
 ี
 �
 ควบคู่กันไปด้วยในแปลงท่ทาเกษตรและท่อยู่อาศัย โดยอาจจะทาตามแนวคิด  ท้องถ่นของผู้นาธรรมชาติแต่ละคน ด้วยภูมิปัญญาท้องถ่นและด้วยการมีชาว
                                                         ิ
 ั
 ิ
 ี
 ั
                     �
 ื
                                                             ี
 ี
 ้
 ั
 ทฤษฎใหม่บนพนฐานหลกปรชญาของเศรษฐกจพอเพยง ด้วยการปรบ  บ้านเป็นกาลังสาคัญและยินดีเข้าร่วมกิจกรรม แนวทางเช่นน้ของศูนย์เรียนร ู้
                         �
 ประยุกตการทาเกษตรไปตามความเหมาะสมของสภาพพนท ชาวบานชบาก ็  จะช่วยสนับสนุนให้ชุมชนบ้านชบามีความเข้มแข็งในกระบวนการพัฒนา
 ื
 ี
 ่
 ้
 �
 ้
 ์
 ิ
 จะสามารถพ่งพาตนเองได้ สามารถลดรายจ่ายและมีโอกาสจะเพ่มรายได้จาก  เกษตรผสมผสาน
 ึ
                           �
                                     �
 การขายพืชผลที่ผลิตจากแปลงเกษตรผสมผสาน  บ้านชบา ตาบลตาโกน อาเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเสมือน
 ทุกวันน้ชาวบ้านชบาควรจะคิดใคร่ครวญถึงประเด็นคาถามของพระ  ตัวแทนของชุมชนเกษตรในภาคอีสาน ท่ได้รับผลกระทบมากจากกระบวนการ
 ี
 �
                                            ี
                                ุ
 ี
 ิ
 �
 มงคลวชิรากรท่ว่า “ทาไมวันน้ชาวบ้านส่วนมากถึงได้ละท้งถ่นฐานบ้านเกิด   พัฒนาการเกษตรแบบทนนิยม และส่งผลให้ชาวบ้านและชุมชนอยู่ในภาวะ
 ี
 ิ
                                      ั
                                  �
                                                               ึ
                                 ี
 เดินทางเข้าเมืองกรุง ไปร่อนเร่หางานทา วิถีชีวิตเช่นน้จะช่วยให้ชาวบ้านม ี  พ่งพิงระบบบริโภคนิยมท่กาลังบ่นทอนและทาลายวิถีของการพ่งตนเอง พระ
 ี
              ึ
 �
                                                 �
 ่
 ความเป็นอยู่ท่ดีข้นจริงหรือ หรือมีแต่จะทาให้ชาวบ้านมีชีวิตท่ยาแย่ลง ม ี  มงคลวชิรากรและสานักสงฆ์บ้านชบาซ่งเป็นศูนย์รวมความศรัทธาและเป็น
                             �
 ี
                                            ึ
 �
 ึ
 ี
 �
 ปัญหาทั้งในด้านสุขภาวะและคุณภาพชีวิต แข่งขันกันหารายได้มาซื้อเขากิน   ศูนย์กลางในการพัฒนาของชุมชนบ้านชบา จึงได้คิดทบทวนสถานการณ์
 ึ
 ั
 �
 ขยันอย่างไรก็ไม่ทาให้รวยข้นมาได้” เป็นการต้งคาถามมาจากความรู้ความ  ปัญหาของชุมชนและส�ารวจรากฐานศักยภาพของชุมชน จนกระทั่งมองเห็น
 �
 เข้าใจถึงรากเหง้าปัญหาของชมชนบ้านชบา และมาจากทัศนะทวิพากษ์  แนวทางหน่งท่จะช่วยให้ชาวบ้านและชุมชนชบาหลุดพ้นจากวงจรวิกฤติทาง
 ุ
                      ึ
                        ี
 ่
 ี
 วิจารณ์ต่อกระบวนการพัฒนาในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ประจาในชุมชน   เศรษฐกิจ ด้วยการเสนอให้มีการจัดต้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนเกษตรผสมผสานพลัง
 �
                                          ั
 พระมงคลวชิรากรได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและสภาพปัญหาของชุมชนอย่าง  บวร เพื่อเป็นสื่อการพัฒนา (change agent) ที่จะน�าพาชาวบ้านสามารถ
 34  ศูนย์เรียนรู้ชุมชนเกษตรผสมผสานพลังบวร      ภูเบศ วณิชชานนท์ และ พระมงคลวชิรากร 35
 ส�ำนักสงฆ์บ้ำนชบำ อ�ำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42