Page 608 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 608

ั
              สมำชิกองค์กำรแพทย์เป็นกำรช่วครำว หรือยกเลิกสถำนะสมำชิกภำพเป็นกำรถำวร ก็ถือ
                                                                   ึ
              เป็นเพียงกำรรักษำคุณภำพทำงกำรปฏิบัติงำนของแพทย์ซ่งต่ำงจำกกำรด�ำเนินกำรทำงวินัย
                                       ั
              ระหว่ำงนำยจ้ำงและลูกจ้ำงท่ว “ธรรมนูญส�ำหรับองค์กรแพทย์และทันตแพทย์ของโรงพยำบำล
                                     ั
              บ�ำรุงรำษฎร์ อินเตอร์เนช่นแนล” เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๑๕ จึงเป็นข้อปฏิบัติเพ่อใช้
                                                                                             ื
                                                                          ั
              ในกำรรักษำพยำบำลให้ได้ระดับมำตรฐำนตำมเจตนำของจ�ำเลยเท่ำน้นไม่ใช่หลักเกณฑ์ก�ำหนด
                                                                                    ื
                       ี
                                                          ั
              สิทธิหน้ำท่ระหว่ำงนำยจ้ำงกับลูกจ้ำงแต่อย่ำงใด ท้งตำมข้อตกลงกำรใช้คลินิกเพ่อประกอบโรค
              ศิลปะ ลงวันที่ ๑ มกรำคม ๒๕๖๑ เอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๑๗ ข้อ ๗ ยังมีข้อควำมระบุว่ำ
                           ั
                                   ื
              สัญญำฉบับน้ต้งอยู่บนพ้นฐำนท่เท่ำเทียมกัน โรงพยำบำลหรือแพทย์ไม่มีอ�ำนำจบังคับบัญชำเหนือ
                         ี
                                         ี
                      ่
                  ั
                                                           ้
                                                 ่
                       ่
              ตอกนไมวำในทำงใด ๆ ...และแพทยไมอยภำยใตขอบงคบเกยวกบกำรทำงำนของโรงพยำบำล
                                                                       ั
                                              ์
                                                                             �
                                                                ั
                                                                   ่
                                                   ู
                                                         ้
                                                                   ี
               ่
                                                   ่
                                                             ั
              จึงไม่ใช่กำรควบคุมทำงวินัยอันเป็นกำรใช้อ�ำนำจบังคับบัญชำต่อโจทก์ท่ปฏิบัติงำนกับจ�ำเลย
                                                                              ี
              ในลักษณะของนำยจ้ำงที่มีต่อลูกจ้ำง ดังนั้น เมื่อโจทก์บรรยำยฟ้องต่อไปว่ำ ระหว่ำงกำรปฏิบัติ
                                                                                   ั
              หน้ำท่ของโจทก์ ผู้อ�ำนวยกำรด้ำนปฏิบัติกำรทำงคลินิกแจ้งโจทก์ทรำบว่ำจ�ำเลยต้งคณะกรรมกำร
                   ี
              สืบเสำะข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ป่วยร้องเรียนกล่ำวหำว่ำโจทก์มีพฤติกรรมไม่เหมำะสม ซ่งโจทก์ได้ให้
                                                                                      ึ
                                         ี
                                                              ี
                                                                                           ี
              ข้อเท็จจริงไปแล้วว่ำเป็นกรณีท่ผู้ป่วยเห็นว่ำค่ำใช้จ่ำยท่จ�ำเลยเรียกเก็บมีจ�ำนวนสูงกว่ำท่จ�ำเลย
                                                       ี
                                                                               ี
              เคยประมำณกำรไว้จึงไม่ยอมจ่ำยค่ำใช้จ่ำยตำมท่จ�ำเลยเรียกเก็บ ไม่ใช่กรณีท่ผู้ป่วยร้องเรียนโจทก์
              แต่อย่ำงใด แต่ต่อมำจ�ำเลยกลับมีหนังสือบอกเลิกข้อตกลงกำรใช้คลินิกเพ่อประกอบโรคศิลป์หรือ
                                                                             ื
              ข้อตกลงกำรใช้คลินิกเพื่อประกอบโรคศิลปะโดยอ้ำงว่ำ โจทก์มีพฤติกรรมไม่เหมำะสมก่อให้เกิด
                              ื
              ควำมเสียหำยต่อช่อเสียงและโอกำสทำงธุรกิจของจ�ำเลย กำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำรด�ำเนิน
                                                          ื
                                                                                      ี
              กำรท่ขัดต่อธรรมนูญแพทย์และบอกเลิกข้อตกลง เพ่อประสงค์ให้โจทก์ไม่ได้ท�ำหน้ำท่แทพย์ต่อไป
                   ี
              ท้งท่โจทก์ไม่ได้กระท�ำผิด ถือเป็นกำรยกเลิก Privilege จงใจท�ำให้โจทก์เสียหำยจำกกำร
                ั
                  ี
                   ื
                                                           ี
              เสียช่อเสียงเกียรติคุณ ขำดรำยได้จำกกำรท�ำหน้ำท่แพทย์ และท�ำให้โจทก์ได้รับผลกระทบต่อ
                                  ั
              กำรประกอบวิชำชีพน้น จึงเป็นกำรกล่ำวอ้ำงว่ำจ�ำเลยผิดสัญญำตำมประมวลกฎหมำยแพ่ง
                                      ้
              และพำณชย์ บรรพ ๒ หน ลกษณะ ๒ สัญญำ และกระท�ำละเมดตำมลักษณะ ๕ ต่อโจทก์
                      ิ
                                                                        ิ
                                         ั
                                      ี
              คดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยจึงมิใช่เป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่ำงนำยจ้ำงและลูกจ้ำง
              เกยวกับกำรท�ำงำนตำมสัญญำจ้ำงแรงงำน และไม่มีลกษณะเป็นคดีพพำทอย่ำงหนงอย่ำงใด
                                                                                        ึ
                                                                                        ่
                ่
                                                                            ิ
                                                              ั
                ี
              ตำมพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำนและวิธีพิจำรณำคดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๘
                                                     580
   603   604   605   606   607   608   609   610   611   612   613