Page 638 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 638
จ�ำเลยทั้งสองยังไม่ได้ให้กำร
ี
ระหว่ำงกำรพิจำรณำ ศำลแรงงำนภำค ๑ เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจ
ึ
ี
ั
�
ิ
ิ
�
ุ
ื
พจำรณำพพำกษำของศำลแรงงำนหรอไม่ จงส่งสำนวนให้ประธำนศำลอทธรณ์คดชำนญพิเศษ
วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำนและวิธีพิจำรณำคดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ
๙ วรรคสอง
วินิจฉัยว่ำ โจทก์บรรยำยฟ้องว่ำ จ�ำเลยที่ ๑ เคยท�ำงำนเป็นลูกจ้ำงของโจทก์ ระหว่ำง
ท�ำงำน จ�ำเลยท้งสองกู้ยืมเงิน ๑๐,๐๐๐ บำท ไปจำกโจทก์ โดยโจทก์ผู้เป็นนำยจ้ำงตกลงให้
ั
ี
�
ื
่
ื
ู
ู
ื
่
ี
่
่
ี
ู
ื
จำเลยท ๑ ทเป็นลกจ้ำงก้ยมเพอเป็นกำรช่วยเหลอจำเลยท ๑ ในฐำนะลกจ้ำงทเดอดร้อนด้ำน
�
่
ี
กำรเงิน จ�ำเลยท้งสองตกลงผ่อนช�ำระโดยให้โจทก์หักจำกเงินเดือนของจ�ำเลยท่ ๑ เดือนละ
ี
ั
ี
ี
๕,๐๐๐ บำท สองเดือนเพ่อช�ำระหน้ แต่จ�ำเลยท่ ๑ ไม่ช�ำระเงินคืนตำมสัญญำแล้วหลบหนีไป
ื
ไม่กลับมำท�ำงำน โจทก์ทวงถำมแล้วแต่จ�ำเลยท้งสองเพิกเฉย ตำมค�ำฟ้องโจทก์เป็นกำรเรียกร้อง
ั
ึ
ให้จ�ำเลยท่ ๑ ซ่งเคยเป็นลูกจ้ำงโจทก์ช�ำระเงินกู้ยืมคืนตำมสัญญำยืมซ่งโจทก์ในฐำนะนำยจ้ำง
ึ
ี
ี
ี
ให้จ�ำเลยท่ ๑ ในฐำนะลูกจ้ำงกู้ยืมเพ่อเป็นกำรช่วยเหลือจ�ำเลยท่ ๑ ท่เดือดร้อนด้ำนกำรเงิน
ื
ี
ึ
จึงเป็นกำรให้กู้ยืมเพ่อเป็นสวัสดิกำรอันเป็นส่วนหน่งของสัญญำจ้ำงแรงงำนระหว่ำงโจทก์กับ
ื
ึ
ี
ี
ี
ี
ื
ี
จ�ำเลยท่ ๑ ซ่งจ�ำเลยท่ ๑ ได้ท�ำสัญญำรับสภำพหน้และภำระผูกพันเน่องจำกกำรท่จ�ำเลยท่ ๑
�
ู
ต้องชำระเงนกยืมคืนดังกล่ำวแก่โจทก์ ตำมสำเนำเอกสำรทำยค�ำเบิกควำมผ้รับมอบอ�ำนำจโจทก์
้
ู้
�
ิ
ี
ี
ี
ลงวันท่ ๒๘ ตุลำคม ๒๕๖๔ หมำย จ.๔ คดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยท่ ๑ จึงเป็นคดีพิพำทเก่ยวด้วย
ี
สิทธิหรือหน้ำท่ตำมสัญญำจ้ำงแรงงำน ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลแรงงำนและวิธีพิจำรณำ
ั
คดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๘ (๑)
ี
ส่วนคดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยท่ ๒ น้น เม่อพิจำรณำค�ำฟ้องโจทก์ประกอบค�ำเบิกควำม
ื
ั
ผู้รับมอบอ�ำนำจโจทก์ ลงวันที่ ๒๘ ตุลำคม ๒๕๖๔ ปรำกฏว่ำจ�ำเลยที่ ๒ เป็นมำรดำของจ�ำเลย
ั
ท่ ๑ โดยไม่ปรำกฏว่ำมีฐำนะเป็นลูกจ้ำงของโจทก์แต่อย่ำงใด ดังน้นแม้ตำมค�ำฟ้องจะกล่ำวอ้ำงว่ำ
ี
จ�ำเลยทั้งสองได้กู้ยืมเงิน ๑๐,๐๐๐ บำท ไปจำกโจทก์ แต่เมื่อโจทก์กับจ�ำเลยที่ ๒ ไม่มีนิติสัมพันธ์
ี
ี
กันตำมสัญญำจ้ำงแรงงำน จึงเป็นกรณีท่โจทก์ฟ้องให้จ�ำเลยท่ ๒ รับผิดตำมประมวลกฎหมำย
แพ่งและพำณิชย์ บรรพ ๓ เอกเทศสัญญำ ลักษณะ ๙ ยืม คดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยที่ ๒ จึง
ั
ไม่มีลักษณะเป็นคดีแรงงำน ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลแรงงำนและวิธีพิจำรณำคดีแรงงำน
พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๘
610

