Page 637 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 637

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ   บริษัทฟูริอิ  เพอร์ฟอร์แมนซ์

                       ที่ วร ๑/๒๕๖๕                            จ�ำกัด                       โจทก์

                                                                นำยฉันท์ชนก  สำยเมธี
                                                                กับพวก                           จ�ำเลย



                                                            ่
                                                                            ้
                                                                ึ
                                                            ี
                       ค�ำฟ้องโจทก์เป็นกำรเรียกร้องให้จ�ำเลยท ๑ ซ่งเคยเป็นลูกจำงโจทก์ช�ำระเงินกู้ยืม
                                                                                       ื
                                ึ
                                                                ่
              คืนตำมสัญญำยืมซ่งโจทก์ในฐำนะนำยจ้ำงให้จ�ำเลยท ๑ ในฐำนะลูกจ้ำงกู้ยืมเพ่อเป็นกำร
                                                                ี
                                                                                 ื
                                    ี
              ช่วยเหลือจ�ำเลยท ๑ ท่เดือดร้อนด้ำนกำรเงิน จึงเป็นกำรให้กู้ยืมเงินเพ่อเป็นสวัสดิกำร
                               ี
                               ่
                                                                            ี
                             ึ
                                                                                          ่
                                                                                          ี
              อันเป็นส่วนหน่งของสัญญำจ้ำงแรงงำนระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยท ๑ ซ่งจ�ำเลยท ๑ ได้
                                                                            ่
                                                                                 ึ
                                   ี
                                                     ื
              ท�ำสัญญำรับสภำพหน้และภำระผูกพันเน่องจำกกำรท่จ�ำเลยท ๑ ต้องช�ำระเงินกู้ยืมคืน
                                                                 ี
                                                                         ี
                                                                         ่
                                                             ่
              ดังกล่ำวแก่โจทก์ คดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยท ๑ เป็นคดีแรงงำน ส่วนจ�ำเลยท ๒
                                                             ี
                                                                                              ี
                                                                                              ่
                                     ่
              เป็นมำรดำของจ�ำเลยท ๑ โดยไม่ปรำกฏว่ำมีฐำนะเป็นลูกจ้ำงของโจทก์แต่อย่ำงใด
                                     ี
              ดังน้น แม้ตำมค�ำฟ้องจะกล่ำวอ้ำงว่ำ จ�ำเลยท้งสองได้กู้ยืมเงิน ๑๐,๐๐๐ บำท ไปจำก
                                                           ั
                  ั
              โจทก์ แต่เมื่อโจทก์กับจ�ำเลยที่ ๒ ไม่มีนิติสัมพันธ์กันตำมสัญญำจ้ำงแรงงำน จึงเป็นกรณี
                                    ่
                                    ี
              ท่โจทก์ฟ้องให้จ�ำเลยท ๒ รับผิดตำม ป.พ.พ. บรรพ ๓ เอกเทศสัญญำ ลักษณะ ๙ ยืม
                ี
              คดีระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยที่ ๒ จึงไม่ใช่คดีแรงงำน
                                      _____________________________
                       โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัด เดือนมกรำคม ๒๕๖๓ จ�ำเลยที่ ๑
                                                                                         ั
              เข้ำท�ำงำนเป็นลูกจ้ำงโจทก์ต�ำแหน่งแอดมิน ต่อมำเดือนกุมภำพันธ์ ๒๕๖๓ จ�ำเลยท้งสองได้
              กู้ยืมเงิน ๑๐,๐๐๐ บำท ไปจำกโจทก์ โดยโจทก์ผู้เป็นนำยจ้ำงตกลงให้จ�ำเลยที่ ๑ ที่เป็นลูกจ้ำง
                                                                                           ั
              กู้ยืมเพ่อเป็นกำรช่วยเหลือจ�ำเลยท่ ๑ ในฐำนะลูกจ้ำงท่เดือดร้อนด้ำนกำรเงิน จ�ำเลยท้งสอง
                                                                ี
                     ื
                                             ี
                                                                ี
              ตกลงผ่อนช�ำระโดยให้โจทก์หักจำกเงินเดือนของจ�ำเลยท่ ๑ เดือนละ ๕,๐๐๐ บำท สองเดือน
                                    ี
                         ี
              เพ่อช�ำระหน้ แต่จ�ำเลยท่ ๑ ไม่ช�ำระเงินคืนตำมสัญญำแล้วหลบหนีไปไม่กลับมำท�ำงำน โจทก์
                ื
              ทวงถำมแล้วแต่จ�ำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้บังคับจ�ำเลยทั้งสองร่วมกันช�ำระเงิน ๑๐,๐๐๐ บำท
              แก่โจทก์


                                                     609
   632   633   634   635   636   637   638   639   640   641   642