Page 674 - รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ
P. 674
ี
ี
ี
งำนวิชำกำรของคณะหรือตำมท่ได้รับมอบหมำยจำกจ�ำเลยท่ ๓ ต่อมำวันท่ ๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๔
โจทก์มีหนังสือขอลำออกจำกกำรเป็นลูกจ้ำงของจ�ำเลยที่ ๑ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ มีนำคม ๒๕๖๔
ั
ี
ั
ต�ำแหน่งรองคณบดีฝ่ำยวิชำกำรท่โจทก์ได้รับกำรแต่งต้งน้นเป็นต�ำแหน่งในฝ่ำยบริหำรของ
ิ
ื
ี
่
ึ
้
คณะกำรศึกษำปฐมวัย ขนอยู่กับดุลพินจของจ�ำเลยท ๓ ในกำรเสนอช่อบุคคลทสมควรได้รับ
ี
่
ั
กำรแต่งต้งให้ช่วยเหลืองำนด้ำนบริหำรภำยในคณะ ซ่งโดยท่วไปจะมีระยะเวลำกำรด�ำรงต�ำแหน่ง
ั
ึ
เท่ำกับระยะเวลำกำรด�ำรงต�ำแหน่งคณบดี รวมทั้งยังเป็นดุลพินิจของจ�ำเลยที่ ๓ ในกำรพิจำรณำ
ื
เปล่ยนแปลงผู้บริหำรงำนของคณะเพ่อควำมเหมำะสมและควำมมีประสิทธิภำพในกำรบริหำรงำน
ี
ี
ี
ต�ำแหน่งดังกล่ำวมิได้เก่ยวข้องกับงำนของโจทก์ท่มีหน้ำท่สอนนักศึกษำตำมสัญญำจ้ำง
ี
กำรแต่งต้งหรือถอดถอนโจทก์จำกต�ำแหน่งดังกล่ำวจึงมิใช่กำรเปล่ยนแปลงสภำพกำรจ้ำง แต่
ั
ี
เป็นเร่องกำรบริหำรงำนในคณะ เหตุท่จ�ำเลยท่ ๓ ต้องถอดถอนโจทก์จำกต�ำแหน่งรองคณบด ี
ี
ี
ื
ฝ่ำยวิชำกำร เน่องจำกโจทก์ละเลยต่อหน้ำท่ในต�ำแหน่งรองคณบดี ไม่ยอมจัดตำรำงกำรเรียน
ื
ี
กำรสอนส�ำหรับภำคเรียนที่สอง ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ ตำมที่จ�ำเลยที่ ๓ มอบหมำย โดยได้แจ้ง
ี
ั
ี
ให้จ�ำเลยท่ ๓ จัดท�ำเอง อันเป็นกำรละเลยต่อหน้ำท่และไม่ให้เกียรติผู้บังคับบัญชำ ท้งโจทก์
ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมำะสมต่อกำรด�ำรงต�ำแหน่งอีกหลำยประกำร อำทิ กำรไม่ให้เกียรติจ�ำเลย
ี
ท่ ๒ ซ่งเป็นผู้บังคับบัญชำสูงสุดในระหว่ำงกำรประชุม กำรไม่ยอมเข้ำร่วมกลุ่มส�ำหรับรองคณบด ี
ึ
ฝ่ำยวิชำกำรของจ�ำเลยท่ ๑ ในแอปพลิเคชันไลน์ท�ำให้เกิดควำมเสียหำยต่อกำรด�ำเนินงำนของ
ี
คณะ ละเลยหน้ำที่ในกำรเข้ำร่วมประชุมฝ่ำยวิชำกำรของจ�ำเลยที่ ๑ ซึ่งจ�ำเลยที่ ๓ ได้ตักเตือน
ี
ี
ด้วยวำจำหลำยคร้งแล้ว กำรท่จ�ำเลยท่ ๓ ใช้อ�ำนำจในต�ำแหน่งคณบดีปรับเปล่ยนต�ำแหน่ง
ั
ี
ื
รองคณบดีฝ่ำยวิชำกำร จึงเป็นกำรใช้อ�ำนำจบริหำรงำนภำยในคณะเพ่อควำมเหมำะสมและ
เป็นธรรมตำมระเบียบของจ�ำเลยที่ ๑ แล้ว นอกจำกนี้ กำรที่จ�ำเลยที่ ๑ โดยจ�ำเลยที่ ๒ ได้มีค�ำสั่ง
มหำวทยำลยหอกำรค้ำไทยท ๗๕๖/๒๕๖๓ แต่งตงจำเลยท ๓ ให้เป็นผ้รกษำกำรในตำแหน่ง
ิ
่
ู
ั
ี
ี
�
้
ั
�
ั
่
รองคณบดีฝ่ำยวิชำกำรยังเป็นกำรอำศัยอ�ำนำจตำมพระรำชบัญญัติสถำบันอุดมศึกษำเอกชน
พ.ศ. ๒๕๔๖ และข้อบังคับมหำวิทยำลัยหอกำรค้ำไทยว่ำด้วยกำรบริหำรงำนบุคคล พ.ศ. ๒๕๕๒
เป็นค�ำส่งท่ชอบด้วยกฎหมำยและเป็นธรรม โดยค�ำนึงถึงผลประโยชน์ทำงกำรศึกษำของนักศึกษำ
ั
ี
เป็นส�ำคัญ จ�ำเลยทั้งสำมมิได้กลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับควำมเสียหำยตำมฟ้อง กำรที่โจทก์ลำออก
เป็นไปโดยควำมสมัครใจของโจทก์เอง จ�ำเลยที่ ๑ มิได้เลิกจ้ำงโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงิน
ที่เรียกร้องตำมฟ้อง ค่ำเสียหำยที่เรียกร้องสูงเกินส่วน คดีไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของ
ื
ศำลแรงงำน เน่องจำกกิจกำรของสถำบันอุดมศึกษำเอกชนไม่อยู่ภำยใต้บังคับกฎหมำยว่ำด้วย
646

