Page 41 - วิจัย-สังคมศึกษา-ปี 2559
P. 41
-34-
เรียนรู้แบบใฝ่รู้จะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับวิธีการใช้กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งท าได้
มากกว่าการสอนแบบบรรยายนั่นเอง
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ั
กาญจนา สายพิมพ์ (2544) ได้ศึกษาวิจัยการพฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ระบบสุริยะ
ื่
ั
ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 : บทคัดย่อ : การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพอ 1) พฒนาบทเรียน
ิ
คอมพวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบสุริยะ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างการเรียนแบบรายาบุคคลกับการเรียนแบบกลุ่มย่อย
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบสุริยะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ใน
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2543 โรงเรียนเมืองใหม่ (ชะลอราษฎร์รังสฤษฏ์) อาเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จ านวน
72 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ โดยวิธีการจับฉลาก แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ๆ ละ 36
คน กลุ่มที่ 1 ใช้วิธีการเรียนแบบรายบุคคล กลุ่มที่ 2 ใช้วิธีการเรียนแบบกลุ่มย่อย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
คือ บทเรียนคอมพวเตอร์ช่วยสอน เรื่องระบบสุริยะ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความ
ิ
ยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.23 ถึง 0.80 มีค่าอ านาจจ าแนกระหว่าง 0.20 ถึง 0.63 ค่าความเที่ยง 0.71 การวิเคราะห์
ข้อมูลทางสถิติใช้ค่าเฉลี่ย t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง ระบบสุริยะ ได้ผ่าน
การประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีค่าเฉลี่ยที่ 4.28 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างการเรียนแบบรายบุคคลและ
การเรียนแบบกลุ่มย่อย โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ไพฑูรย์ นพกาศ (2535) ได้ศึกษาวิจัย เรื่องการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ส าหรับสอนซ่อม
เสริม วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างได้ จากการสุ่ม
ห้องเรียน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2534 โรงเรียนสารวิทยา กรุงเทพฯ
จ านวน 40 คน ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่ ากว่าเกณฑ์ร้อยละ 50 แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและ
กลุ่มควบคุม กลุ่มละ 20 คนเท่า ๆ กัน กลุ่มทดลองเรียนซ่อมเสริม ด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่ม
ทดลองควบคุมเรียนซ่อมเสริมแบบปกติ ผลการวิจัยพบว่า 1) บทเรียนคอมพวเตอร์ช่วยสอน ส าหรับสอนซ่อม
ิ
เสริม วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 75/70
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนซ่อมเสริม ของกลุ่มทดลอง กับกลุ่มควบคุมแตกต่างกัน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่
ระดับ .05 โดยกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่า
ชมัยพร ตั้งตรง (2538) ได้ศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาคณิตศาสตร์
เรื่องการหาร ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนดาราคาม กรุงเทพฯ จ านวน 30 คน แบ่งเป็น 2
ั
กลุ่ม โดยวิธีการจับคู่นักเรียน ที่มีคะแนนสอบจากแบบทดสอบที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเท่ากน แล้วจึงสุ่มอย่างง่าย
ื่
ภายในคู่เพอแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มทดลองที่ 1 และ 2 กลุ่มทดลองที่ 1 และ 2 กลุ่มทดลองที่ 1 เรียนจาก

