Page 19 - คู่มือการปลูกฝังอุดมการณ์ทางทหาร
P. 19
๑๖
่
ั
้
ิ
็
้
้
ั
ั
ู
ั
็
ผูบงคับบญชามีสิทธทีจะรูความเปนไปของงาน เพราะผบงคับบญชาเองกมีฐานะ
์
ั
้
ั
ั
้
ั
ั
ื
เปนผูใต้บงคบบญชาทีจะต้องรางานผูบงคบบญชาชันเหนอขนไปเช่นกน ผูใต้บงคบบญชาทีมีประสิทธภาพ
้
็
ั
ั
ั
ั
่
้
ิ
ึ
้
ั
่
ั
่
่
ควรจะยนดีต่อการตรวจสอบ ซึงในความเปนจริงแล้ว สิงนจะเปนการเปดโอกาสให้ผูใต้บงคบบญชาได้สร้างความ
ี
็
ั
้
ิ
ั
้
็
ิ
้
่
่
นาเชือถือและไว้วางใจจากผูบังคับบัญชา
ั
่
ี
ั
ั
ผูใต้บงคบบญชาทแสดงว่ายนดีรบการตรวจสอบได้จะไม่สามารถสรางความสัมพนธ์ทีดีกบ
ั
่
ั
้
้
ั
ิ
ื
ั
้
้
ู
ั
ั
่
ิ
ั
ึ
ื
ิ
ี
ผูบงคบบญชาได้ ตัวอย่างเช่น การปดบงข้อมูล บดเบอนขอมูล ให้ความจรงเพยงครงเดียว หรอให้ขอมูลทีไม่ถกต้อง
่
ิ
้
้
เปนต้น สิงเหล่านีถือว่าไม่เป็นผูใต้บังคับบัญชามืออาชีพ ผูใต้บังคับบัญชาทีมีประสิทธิภาพนันไม่เพียงแต่จะยินดีให้
่
็
้
่
้
้
ั
็
่
ิ
ิ
้
ั
ตรวจสอบเท่านน แต่จะต้องเปนฝ่ายรเริมรายงานผลการปฏบติงานให้ทราบ
้
ั
ั
ั
้
๒.๓ เชิญผูบงคบบญชาให้เขามามีส่วนร่วมในงาน (Invite Him/Her in)
ํ
่
คนทั่วไปมักจะมีความรูสึกของการมีอาณาเขตส่วนตัว และไม่ชอบให้ใครรุกล้า เช่น นีโต๊ะของ
้
่
่
ี
ฉัน รถของฉน บานของฉัน รวมทังงานของฉัน ซึงในความเปนจริงเราไม่อาจกล่าววางานทได้รับมอบหมายจาก
่
้
็
ั
้
ั
่
่
ั
้
ั
ั
่
็
ผูบงคบบญชาเปนงานของเราอยางเบดเสรจ โดยทีผูบงคบบญชาไม่ควรเขามากาวกาย เพราะงานนนยังคงอยูใน
้
ั
้
ั
็
่
้
ั
้
็
ู
้
ั
ั
ความรบผิดชอบของผูบงคบบญชา เนองจากผบงคบบญชาต้องรบผิดชอบต่อการตรวจสอบจากผูบงคับบญชา
้
้
ื
่
ั
ั
ั
ั
ั
ั
ั
ั
ี
ั
่
้
่
ี
่
่
ั
้
ี
่
ื
ั
้
้
ื
้
ชันเหนอขึนไปถึงความสําเร็จของงาน โดยผูใต้บงคบบญชาคอผูทีมีหนาทเลือกวิธการทีดีทสุด ทีจะทํางานให้สําเร็จ
ั
้
ั
ในนามของผูบงคบบญชา
ั
ั
ั
ั
ิ
ั
ผูบงคบบญชาบางคนเมือมอบหมายงานไปแล้ว กจะให้อสระแก่ผูใต้บงคบบญชาในการทํางาน
็
่
ั
้
้
ั
่
่
ี
็
้
ไม่เข้าไปเกยวของในรายละเอยดมาก แต่ผูบงคับบญชาบางคนกเหนว่าตนมีสิทธิทีจะบอกวาต้องการให้ทํางาน
่
ั
็
ั
้
ี
์
่
้
้
์
อยางไร โดยไม่คํานึงถึงจิตวิทยาของการเป็นผูบังคับบัญชาใด ๆ ทังสิน คิดแต่ว่าเป็นสิทธิของผูบังคับบัญชา
้
้
ึ
้
ั
่
ทีจะตรวจสอบผูใต้บงคบบญชาได้ เพราะตนกต้องรายงานผูบงคับบญชาทีอยูเหนอขนไป
ั
็
่
ั
ื
่
้
ั
้
ั
ึ
ดังนนผูใต้บงคบบญชาทมีประสิทธิภาพ จงไม่ควรจะมีความรูสึกทีไม่ดีต่อวิธีการของ
่
้
ั
ั
้
ี
่
ั
้
ั
ั
ั
ั
่
ู
ั
ั
ผูบงคบบญชา แต่ควรจะเชิญผูบงคบบญชาให้เขามามีส่วนร่วมในงาน เพราะเป็นสิทธของผบงคับบญชาอยแล้ว
ิ
้
ั
ั
์
ู
ั
้
้
้
ั
้
่
ั
ซึงอาจทําได้โดยการรายงานความกาวหน้าของงานเปนระยะ ๆ ใหผูบงคบบญชาได้รับรูความเป็นไปของงาน หรือ
ั
้
้
็
้
ี
้
ํ
่
ขอคําแนะนาในการแกปญหาต่าง ๆ สิงเหลานจะช่วยทําให้ได้รับความไววางใจมากขน
ึ
้
้
่
้
ั
๒.๔ เมือเกดความไม่เขาใจในผูบงคบบญชาต้องแสวงหาความกระจาง (Ask for Feedback)
ั
้
่
่
ั
ั
้
ิ
่
้
่
ั
ั
ั
ในระหวางการทํางานร่วมกนมีบอยครังทีผูใต้บงคบบญชาไม่เขาใจการแสดงออกของ
้
่
ั
้
้
ั
้
ผูบงคบบญชา แล้วตีความเอาแบบผิด ๆ และการตีความผิดนันก็ทําให้เกิดความไม่ไวใจผูบังคับบัญชาไม่พอใจหรือ
้
ั
ั
้
่
ํ
ั
ึ
ั
ั
้
่
ั
็
้
เลยไปถงการไม่อยากทํางานด้วย เช่น ผูบงคบบญชาไม่ให้ขอมูลซึงผูใต้บงคบบญชาคิดวาจาเปนต่อการทํางานให ้
ั
ั
้
ั
ั
ั
่
ู
้
ั
้
้
ถกต้อง ผูบงคบบญชาไม่เชิญเข้าประชุมนดสําคัญ หรือผูบังคับบัญชามาทีห้องทํางาน ของผูใต้บังคับบัญชาในเวลาที ่
ึ
ั
ั
ั
้
ั
้
่
ไม่ได้คาดวาจะมา เปนต้น ซึงส่วนใหญ่ผูใต้บงคบบญชามักตีความวาผูบงคบบญชาไม่พอใจจงรูสึกไม่ไว้ใจ
็
ั
้
่
ั
่
่
้
ั
ั
ผูบงคบบญชาไม่เชือใจ ไม่จงรกภกดีต่อผูบังคับบัญชา นานเข้าก็จะทําให้ความสัมพันธ์ไม่ดี ดังนันเมือเกิดความไม่เข้าใจ
ั
ั
่
ั
้
้
ผูใต้บงคบบญชาต้องเปนฝ่ายแสวงหาความกระจาง เพราะผใต้บงคบบญชาเปนผูรบรูอารมณ์ และตีความกระทํา
้
ู
็
ั
ั
็
ั
ั
ั
้
ั
้
้
่
ั
่
ั
ของผูบงคบบญชา โดยควรเลือกเวลาและสถานทีและวธีการในการพูดคุยทําความเข้าใจอย่างระมัดระวัง
้
ั
ั
ิ

