Page 142 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 142

๑๒๑


                                 พระยามิลินทร์ ตอบว่า“รู้ได้ซิ พระเป็นเจ้า”

                                 พระนาคเสนถามว่า “รู้ได้อย่างไร”

                                 พระยามิลินทร์ ตอบว่า

                                 “ได้ฟังเสียงครางของคนอื่น ผู้มีมือเท้าอันขาดแล้ว ก็รู้ได้ซิพระผู้เป็นเจ้า”

                                 พระนาคเสนตอบรับว่า

                                 “ข้อนั้น ฉันใด ผู้ใดไม่ได้นิพพาน ได้ฟังเสียงของคนที่เห็นก็รู้ได้ว่า นิพพานเป็นสุข ฉันนั้น”

                       จากการสนทนาถามปัญหาข้อนี้ระหว่างพระยามิลินท์กับพระนาคเสนที่ต้องการทราบว่าผู้ที่ยังไม่ได้
                       บรรลุนิพพานจะรู้หรือว่านิพาพานเป็นสุข ซึ่งพระนาคเสนก็ตอบไปว่า รู้ได้ รู้ได้อย่างไรหละ พระยามิ

                       ลินท์ถามต่อ พระนาคเสนย้อนถามพระยามิลินท์กลับว่า ผู้ที่ไม่ถูกตัดมือตัดเท้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เหตุ
                       นั้นเป็นทุกข์ ซึ่งพระยามิลินท์ก็ตอบว่ารู้ รู้ได้จากเสียงครางอย่างเจ็บปวดทรมานของบุคคลผู้ได้รับ

                       ความทุกข์จากเหตุนั้น ฉันใด ก็ฉันนั้น พระนาคเสนตอบแบบสรุปส่งท้ายว่า ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิพพานก็

                       สามารถรู้ได้ว่านิพพานเป็นสุขจากสุรเสียงของคนอนผู้ได้บรรลุนิพพาน นั่นก็หมายความว่า ในปัญหา
                                                                 ื่
                       ข้อนี้ ท่านพระนาคเสนประสงค์จะชี้แจงให้ทราบถึงสภาพความสุขของนิพพานว่า ถึงแม้ว่าบุคคลที่ยัง

                       ไม่บรรลุนิพพานก็สามารถจะรู้ได้ว่านิพพานมีความสุข จากการอนุมานเชิงประจักษ์ของบุคคลที่ได้
                       บรรลุนิพพานและเสวยสุขแห่งนิพพานนั้น


                                 ส าหรับบทที่ ๔ นี้เป็นการวิเคราะห์มิลินทปัญหาตามแนวทางของปรมัตถธรรรม ๔ คือ จิต
                                             ื่
                       เจตสิก รูป และนิพพาน เพอที่จะให้เห็นถึงแนวคิดทางอภิปรัชญาในมิลินทปัญหา จากการวิเคราะห์
                       เชิงอภิปรัชญาผู้วิจัยพบว่ามีปัญหาในมิลินทปัญหาอยู่ค่อนข้างมากที่มีนัยยะทางอภิปรัชญาตาม

                       วัตถุประสงค์ในการวิจัยในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อน ามาวิเคราะห์ตามหลักปรมัตถธรรม ๔ คือ จิต เจตสิก รูป
                       นิพพาน แต่ละปัญหาก็จะถูกแยกให้อยู่ในบริบทและขอบเขตของแต่ละปัญหาที่จะสงเคราะห์เข้าใน

                       ปรมัตถธรรม ๔ ตามตางรางที่แสดงไว้ในตอนต้นของบทนี้ และเมื่อน ามาวิเคราะห์ตามปรมัตถธรรม ๔

                       ผู้วิจัยได้เลือกน ามาวิเคราะห์เพยงปรมัตถธรรม ละ ๔ ปัญหา โดยแยกเป็น ๔ ประเภทของการ
                                                  ี
                       วิเคราะห์ คือ ปัญหาที่เกยวกับการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก รูป และ นิพพาน ปัญหาเกี่ยวกับ จิต เจตสิก
                                           ี่
                       รูป ปัญหาเกี่ยวกับ จิต เจตสิก  และปัญหาเกี่ยวนิพพาน จากการวิเคราะห์ในแต่ละปัญหาเราจะพบว่า
                                                           ุ
                       มิลินทปัญหาได้เปิดเผยหลักการทางพระพทธศาสนาตามที่องค์พระศาสดาได้ตรัสไว้ในที่ต่าง ๆ ใน
                       คัมภีร์พระไตรปิฎกทงในพระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม และเมื่อถูกน ามาวิเคราะห์เชิงปรมัตถ์ก็
                                        ั้
                       สามารถชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของหลักธรรมะของพระพทธศาสนาทั้งในแนวทางพระสูตรและทาง
                                                                        ุ
                                                                    ุ
                       อภิธรรมว่าในที่สุดแล้วการน าเสนอหลักการทางพระพทธศาสนาถึงแม้ว่าจะมีวิธีการที่แตกต่างกันใน
                       ด้านภาษาและวิธีการ แต่ในท้ายที่สุดแล้วตัวสาระของหลักธรรมที่ปรากฏในมิลินทปัญหาก็สามารถที่
                                                                                 ี
                       จะมองให้เห็นความเชื่อมโยงสอดคล้องกันกันได้ เพียงแต่ในอภิธรรมจะมความละเอียดเจาะลึกลงไปใน
   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147