Page 140 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 140

๑๑๙


                       โทมนัสเวทนาหมายถึงทุกข์ทางใจ ในความหมายของปัญหาข้อนี้ พระนาคเสนให้ความหมายไว้ชัดเจน
                       ว่า พระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีโทมนัสเวทนา คือทุกข์ทางใจ ท่านได้ละไปหมดแล้วแต่ยังมี

                       ทุกขเวทนาอยู่เนื่องด้วยสภาพของรูปนาม คือขันธ์ ๕ คือ หรือ จิต เจตสิก รูป ที่ยังคงอยู่

                                 ๔.๔.๒ นิโรธนิพพานปัญหา


                                 ปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในมิลินทปัญหาวรรคที่ ๔  ปัญหาข้อที่ ๘  โดยพระยามิลินท์ได้ตรัส
                       ถามพระนาคเสนว่า“พระผู้เป็นเจ้า นิพพาน คือ นิโรธ หรือ”


                                 พระนาคเสนได้ตอบว่า
                                 “ขอถวายพระพร นิพพาน คือนิโรธ”


                                 พระยามิลินท์ได้ตรัสถามต่อไปว่า
                                 “ คือ นิโรธอย่างไร”


                                 พระนาคเสนได้ชี้แจงต่อไปว่า
                                 “ปุถุชนคนเขลาทั้งหลายทั้งปวงยินดีเพลิดเพลินหมกมุ่นอยู่ในอายตนะภายในภายนอก

                        ั
                                                                               ้
                                       ั
                       อนกระแสตัณหาพดพาให้ลอดไปอยู่ อาตมาภาพจึงกล่าวว่า ‘ไม่พนไปจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ
                                                      ้
                                            ุ
                       ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อปายาส ไม่พนไปจากทุกข์ได้’ ส่วนอริยสาวก ผู้ได้สดับแล้ว ย่อมไม่ยินดี
                       เพลิดเพลินหมกมุ่นอยู่ในอายตนะภายในภายนอก เมื่อท่านไม่ยินดีเพลิดเพลินหมกมุ่นเช่นนั้น ตัณหา
                       คือความทยานอยากย่อมดับไป เพราะตัณหาดับไป อปาทาน คือการถือมั่น ก็ดับไป เพราะอปาทาน
                                                                                                   ุ
                                                                   ุ
                       ดับไป ภพ คือกรรมก็ดับไป เพราะดับภพ ชาติ คือความเกิดก็ดับไป เพราะชาติดับไป ชรา มรณะ โส
                                               ุ
                       กะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อปายาส ก็ดับไป ความดับแห่งกองทุกข์สิ้นเชิงนั้น ย่อมมีด้วยประการ
                       ฉะนี้.”


                                 จากบทสนทนาถามตอบระหว่างพระยามิลินท์กับพระนาคเสนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ โดย
                       พระยา- มิลินท์ได้ถามว่า นิพพาน คือ นิโรธ หรือ ซึ่งพระนาคเสนก็ตอบว่า ใช่ นิพพาน คือ นิโรธ จาก

                                                                                      ุ
                       ค าตอบของท่านนาคเสนที่กล่าวมาก็เห็นชัดเจนในหลักค าสอนของพระพทธศาสนาในประเด็นที่
                       เกี่ยวกับความดับหรือนิโรธ โดยท่านได้ยกหลักการในปฏิจจสมุปบาทสายดับหรือสายปฏิโลม มา
                       อธิบายในท่อนกลางของปัจยาการ ๑๒ เริ่มจากเมื่อตัณหาดับ อุปาทานก็ดับ เรื่อยไปจนเพราะชาติดับ

                                                           ุ
                       ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อปายาส ก็ดับไป ความดับแห่งกองทุกข์สิ้นเชิงนั้น ซึ่งถ้า
                                 ุ
                       ศึกษาพระพทธศาสนาจากคัมภีร์หลัก คือพระไตรปิฎกก็จะพบค าที่เรียวกว่า ไวพจน์ คือค าที่ใช้แทน
                       ความหมายนิพพานหลายค าเช่น อเสสโต วิราโค (ความส ารอกโดยไม่เหลือ) นิโรโธ (ความดับ) จาโค

                                                                   ้
                       (ความสละ) ปฏินิสฺสคฺโค (ความสละคืน) มุตฺติ (ความพน) อนาลโย (ความไม่มีอาลัย) ราคกฺขโย (ความ
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145