Page 151 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 151
๑๓๐
์
ขาดหลักการปกครองที่ดี มีคุณธรรม จึงต้องมีการคิดค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ขึ้นเป็นก าหนดกฎเกณฑของ
สังคม
๕)อานาจของพระเจ้ามีมากเกินไป ศาสนาโดยเฉพาะศาสนาเทวนิยม สอนให้เชื่อใน
เรื่อง พระเจ้า ซึ่งมีอานาจมากมาย ไม่มีขอบเขตจ ากัด จึงท้ายทายผู้มีสติปัญญาให้มีการค้นคว้าหา
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าว่า มีจริงหรือไม่ หรือมีอ านาจอย่างไร มีอ านาจจริงหรือไม่
ุ
๑.๓ พทธอภิปรัชญา (Buddhist Metaphysics) พบว่าพทธปรัชญาเถรวาทยอมรับความ
ุ
จริงหรือสัจจะ ๒ อย่าง คือ สมมติสัจจะ และ ปรมัตถสัจจะ โดยสรุปได้ดังนี้
๑) สมมติสัจจะ (Conventional Truth) ความจริงโดยสมมติ คือสิ่งที่ เป็นจริงเพราะ
ื่
่
บัญญัติของชาวโลกเพอการรับรู้ร่วมกัน สิ่งนั้นไม่มีความเป็นจริงใน ตัวเอง เช่น คน พอ แม่ ลูก แมว
สุนัข ต้นไม้ ภูเขา สิ่งเหล่านี้เกิดจากการ รวมตัวกันของขันธ์ ๕ จึงไม่มีความเป็นจริงโดยสภาวะของ
ตนเอง จัดเป็นความ จริงโดยสมมติของชาวโลก
๒) ปรมัตถสัจจะ (Ultimate Truth) ความจริงโดยปรมัตถ์ คือความ จริงแท้สูงสุดตาม
สภาวะที่เป็นเอง โดยไม่อาศัยการสมมติบัญญัติของชาวโลก ดังค าอธิบายว่า ธรรมทั้งหลายมีรูปเป็น
ต้น แม้ปราศจากการสมมติก็ยังชื่อว่ามีอยู่ เพราะมีสภาวะให้รู้ได้ด้วยสามารถแห่งลักษณะเฉพาะตน
และสามัญลักษณะคัมภีร์ฝ่ายอภิธรรมจ าแนกประเภทของปรมัตถสัจจะออกเป็น จิต เจตสิก รูป
นิพพาน ซึ่งตรงกับขันธ์ ๕ และนิพพาน และในงานวิจัยนี้ผู้วิจัยหมายถึงปรมัตถสัจจะที่เกี่ยวข้องกับ
จิต เจตสิก รูป นิพพาน ที่ปรากฏในอภิธรรมปิฎกเท่านั้น เพอน าข้อมูลที่ได้นี้ไปวิเคราะห์ในการถาม
ื่
ตอบระหว่างพระเจ้ามิลินท์ และพระนาคเสน ในคัมภีร์มิลินทปัญหาที่มีเนื้อหาในการถามตอบ
เกี่ยวข้องกับจิต เจตสิก รูป นิพพาน สรุปได้ดังนี้
๑) จิต หมายถึง ธรรมชาติที่คิดอารมณ์ (อารมฺมณ จินเตตีติ จิตฺต ) อารมณ์ได้แก่ สิ่งที่จิต
ิ
คิดถึงเป็นที่ยึดหน่วงของจิต (อาลมฺพตพพ) มี ๖ ประเภท คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และ
ฺ
ธรรมารมณ์ อารมณ์เป็นปัจจัยส าคัญของการเกิดขึ้นของจิตแต่ละขณะ ถ้าไม่มีอารมณ์ส าหรับคิด จิต
ก็เกิดไม่ได้ บางขณะจิตอาจคิดถึงความว่าง คือนิพพาน ความว่างหรือนิพพานก็เป็นอารมณ์ของจิต
อารมณ์ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ท าให้จิตเกิด จิตหรือวิญญาณอาศัยปัจจัยหลายประการเกิดขึ้น
จิตมีประเภทเดียว คือเป็นสภาวะรู้อารมณ์ จิตมี ๒ อย่าง โดยจิตที่มีวิบากและจิตที่ไม่มี
ั
วิบากจิตที่มีวิบาก คือกุศลจิต และอกุศลจิต จิตที่ไม่มีวิบาก คืออพยากตจิต (วิปากจิตและกิริยาจิต)
ั
จิตมี ๓ อย่าง โดยจ าแนกตามชาติ (ประเภท) คือ กุศลจิต อกุศลจิต และอพยากตจิต เมื่อจ าแนกอพ
ั
ยากตจิตออกเป็นวิปากจิต และกิริยาจิต จึงสรุปได้ว่า จิตมี ๔ ประเภทตามชาติ จะประกอบด้วย กุศล
จิต อกุศลจิต วิปากจิต และกิริยาจิต

